กู้เรือน้ำตาลอุปสรรคเพียบ ผู้ว่าฯ มั่นใจพรุ่งนี้กู้ได้

11 มิ.ย. - ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา มั่นใจเรือน้ำตาลลอยพ้นฝั่งแน่นอนในวันพรุ่งนี้ หลังปฏิบัติการกู้เรือเห็นผลชัด ชาวบ้านเฮอาจไม่ต้องรื้อถอนบ้านเพิ่ม ขณะที่สภาทนายความยื่นมือช่วยเรียกร้องค่าเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการกู้เรือน้ำตาลล่ม ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า น.อ.สุริยะ ภิญโญ รอง ผอ.กองประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณท์ กรมสรรพวุธทหารเรือ ได้ร่วมกันอำนวยการนำพอนทูนลูกตัวที่ 2 ซึ่งเป็นพอนทูนเหล็ก ขนาด กว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร สูง 1.50 เมตร สามารถรับน้ำหนักได้ 150 ตัน ลงไปช่วงกลางลำเรือเป็นตัวที่ 2 โดยใช้เครนขนาดใหญ่ยกลงไปวางช่วงคานกลางลำเรือ ตั้งแต่กาบเรือจนถึงท้องเรือมีความลึก 6 เมตร เมื่อนำพอนทูนใส่เข้าไปจะมีเนื้อที่ว่างจากท้องเรือถึงพื้นพอนทูนด้านล่าง 4 เมตร ซึ่งจุดนี้เองหากพอนทูนไม่สามารถที่จะพยุงเรือขึ้นได้ หน่วยประดาน้ำของกองทัพเรือก็จะนำบอลลูนเข้าไปใส่ไว้ด้านล่างของพอนทูน เพื่อช่วยพยุงเรืออีกทางหนึ่ง

อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่าในการใช้พอนทูนยกนั้นจะต้องสูบน้ำเข้าจนพอนทูนจม โดยระหว่างสูบน้ำต้องหมุนตัวพอนทูน ให้ขนานกับกาบเรือทั้ง 2 ข้าง จากนั้นจึงอัดอากาศเข้าไปแทนที่น้ำเพื่อพยุงตัวเรือให้ลอยขึ้น รวมทั้งใช้เรือโม่งซึ่งเป็นเรือลากจูงขนาดใหญ่ จำนวน 3 ลำ ลากส่วนหัวเรือน้ำตาล ส่วนด้านท้ายก็จะมีเรือรั้งท้ายอีก 2 ลำ เพื่อความสะดวกในการบังคับให้เรือลอยไปตามทิศทางที่กำหนด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะหยุดปฏิบัติการกู้เรือน้ำตาลล่มในวันนี้แล้ว และจะเริ่มดำเนินการอัดอากาศ เพื่อให้พอนทูนยกเรือให้ลอยขึ้นในวันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) ซึ่งทันทีที่ท้องเรือพ้นดิน ก็จะใช้เรือลากออกให้พ้นจุดที่จมมุ่งไปทางวัดพนัญเชิง เพื่อนำไปซ่อมที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่ารู้สึกสบายใจขึ้นและต้องชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ประสบความสำเร็จ เห็นผลของปฏิบัติการกู้เรืออย่างชัดเจน เหลือเพียงการอัดอากาศเข้าไปในพอนทูน เพื่อให้เรือลอยขึ้นเท่านั้น มั่นใจว่าพรุ่งนี้จะสามารถกู้เรือและลากพ้นตลิ่งได้อย่างแน่นอน

ส่วนความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น วันนี้ (11 มิ.ย.) นายวีระ ชมพันธ์ รองประธานฝ่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมสภาทนายความได้เดินทางมาพบกับชาวบ้านที่ได้ รับความเดือดร้อน โดยยินดีช่วยเหลือฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้องเพื่อเรียกค่าเสียหาย และไม่คิดค่าใช้จ่าย เบื้องต้นชาวบ้านต่างพอใจที่อาจไม่ต้องรื้อถอนบ้าน หากเจ้าหน้าที่สามารถกู้เรือได้สำเร็จและมีการซ่อมแซมตลิ่งเพิ่ม - สำนักข่าวไทย