ยิ่งลักษณ์ไม่เข้าข่ายผิดพรบ.หลักทรัพย์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ออกแถลงการณ์ชี้แจง กรณีเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอร์รัปชั่นทักษิณ (คนท.) เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ก.ล.ต. ให้ดำเนินการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ให้เป็นไปตามผลของคำพิพากษาศาลฎีกา แผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดย ก.ล.ต. ชี้แจงว่า ได้ดำเนินการในเรื่องที่อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่แล้ว ซึ่งมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ก.ล.ต. 2 ประเด็น คือ การรายงานการขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้แก่บุคคลทั้ง 4 ราย ซึ่งรวมไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และบริษัท แอมเพิลริช อินเวสต์เมนท์ จำกัด ไม่ใช่การขายจริง และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีจำนวนหุ้นที่เกี่ยวข้องต่ำกว่าร้อยละ 5 จึงไม่มีหน้าที่ต้องยื่นรายงานใดๆ
ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ชี้แจงต่อ ก.ล.ต. ว่า ครอบครัวชินวัตร ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกองทุน 2 แห่ง หรือเกี่ยวข้องกับ บริษัท วินมาร์ค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัทชิน คอร์ปฯ ด้วย แต่ปรากฏว่า จากผลการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบหลักฐานที่แสดงว่า เจ้าของที่แท้จริง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ คุณหญิงพจมาน ดังนั้น คำชี้แจงดังกล่าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะถือว่าเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 หรือไม่นั้น ก.ล.ต. ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ เพราะไม่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ. ที่ครอบคลุมเฉพาะการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ โดยเจตนาให้ผู้อื่นสำคัญผิดในข้อเท็จจริง เกี่ยวกับฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน หรือเกี่ยวกับราคาซื้อขายหลักทรัพย์ แต่ข้อเท็จจริงกรณีนี้ เป็นเรื่องเฉพาะที่เกี่ยวกับการถือหุ้น มิใช่ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับบริษัท หรือราคาซื้อขาย อีกทั้งการชี้แจงดังกล่าวเกิดขึ้นในขั้นตอนทั่วไปที่ ก.ล.ต. สอบถามมิใช่การชี้แจงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม หากปรากฏว่าข้อมูลใดใหม่ ก.ล.ต. ก็พร้อมจะพิจารณาเรื่องเหล่านี้อีกครั้ง และจะแจ้งดำเนินการในเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อทราบในการประชุมครั้งต่อไป
ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ชี้แจงต่อ ก.ล.ต. ว่า ครอบครัวชินวัตร ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกองทุน 2 แห่ง หรือเกี่ยวข้องกับ บริษัท วินมาร์ค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัทชิน คอร์ปฯ ด้วย แต่ปรากฏว่า จากผลการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบหลักฐานที่แสดงว่า เจ้าของที่แท้จริง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ คุณหญิงพจมาน ดังนั้น คำชี้แจงดังกล่าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะถือว่าเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 หรือไม่นั้น ก.ล.ต. ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ เพราะไม่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ. ที่ครอบคลุมเฉพาะการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ โดยเจตนาให้ผู้อื่นสำคัญผิดในข้อเท็จจริง เกี่ยวกับฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน หรือเกี่ยวกับราคาซื้อขายหลักทรัพย์ แต่ข้อเท็จจริงกรณีนี้ เป็นเรื่องเฉพาะที่เกี่ยวกับการถือหุ้น มิใช่ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับบริษัท หรือราคาซื้อขาย อีกทั้งการชี้แจงดังกล่าวเกิดขึ้นในขั้นตอนทั่วไปที่ ก.ล.ต. สอบถามมิใช่การชี้แจงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม หากปรากฏว่าข้อมูลใดใหม่ ก.ล.ต. ก็พร้อมจะพิจารณาเรื่องเหล่านี้อีกครั้ง และจะแจ้งดำเนินการในเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อทราบในการประชุมครั้งต่อไป