ด่านปอยเปตเผยนักท่องเที่ยวลดหลังจับสปาย

เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ อ้างการรายงานจากสำนักข่าวซีอีเอ็น ของกัมพูชา วันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยรายงานข่าวอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนเมืองปอยเปต ระบุ ชาวกัมพูชาเดินทางเข้าไทยน้อยลง นับจากมีการจับกุมชาวกัมพูชารายหนึ่ง พร้อมกับชาวเวียดนามและชาวไทยในข้อหาจารกรรม รวมถึงการที่ศาล จ.ศรีสะเกษ ออกหมายจับเจ้าหน้าที่ทหารของกัมพูชาอีกราย

นายเซา ปุนริตต์ หัวหน้าสถานีตำรวจด่านพรมแดนนานาชาติปอยเปต เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวและผู้ป่วยชาวเขมร ไม่เข้าไปประเทศไทยอีก ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนเจ้าหน้าที่กัมพูชา ยิ่งไม่ต้องการไปยิ่งกว่าชาวบ้านธรรมดา เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งได้อธิบายว่า พวกตำรวจเองก็ไม่อยากไป หลังจากที่ สมเด็จฮุน เซน แนะนำให้ระมัดระวังเวลาไปไทย กลัวไทยจับกุมตั้งข้อหาทำการจารกรรม หัวหน้าสถานีตำรวจ กล่าวอธิบายต่อว่า แม้แต่ชาวเขมรที่ไปทำงานในตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ ก็น้อยลงแล้วในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ เนื่องจากค้าขายไม่ดี จากสภาพทางเศรษฐกิจและสถานการณ์พรมแดน ตอนนี้มีชาวเขมรเพียง4,000 - 5,000 คนเท่านั้น ที่ไปตลาดโรงเกลือ จากที่ก่อนหน้ามีถึง 8,000 - 12,000 คน ส่วนแรงงานชาวเขมรที่เดินทางไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย โดยผ่านประเทศไทย ไม่ทราบตัวเลขแน่ชัด ขณะที่คนไทยที่เข้าไปยังกัมพูชาเพื่อเล่นการพนันในบ่อนกาสิโนต่างๆ ยังคงเป็นปกติที่ประมาณ 1,000 - 1,200คนต่อวัน

ขณะที่ พ.อ.มึง มุนนี รองหัวหน้าสำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย ระบุว่า ปกติผู้ป่วยชาวกัมพูชาจะมีหนังสือขอไปรักษาพยาบาลในประเทศไทย เดือนละประมาณ 10 ฉบับ แต่ในเดือนนี้มีแค่ 2-3ฉบับเท่านั้น ส่วนเจ้าหน้าที่ราชการที่ต้องการไปไทยถูกตัดชื่อออก หากไม่มีหนังสือเบิกทางจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพวกเขาจะใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราวแทน ส่วนความสัมพันธ์เจ้าหน้าที่สำนักงานประสานงานชายแดนของทั้ง2ปท.ยังปกติ