สภาทนายความชี้คดีหมอมุกผิดแพ่งอาญา

ว่าที่ พันตรี สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความ ให้ความเห็นกรณีนายทหารขับรถพุ่งชนร่างของ พันตรี แพทย์หญิง หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก แพทย์หญิงประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จนได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบใน 2 กรณี คือ กรณีของคดีอาญากับกรณีคดีแพ่ง ในเรื่องการรับผิดทางอาญานั้น เห็นว่าการที่นายทหารคนดังกล่าว ขับรถออกจากหน้าบ้านของหมอมุก ไปตั้งหลักฝั่งตรงข้าม เพื่อซุ่มดูหมอมุกออกมาเอารถแล้วขับย้อน มาโดยปิดไฟหน้า เพื่อชนก่อนที่จะหลบหนีไปพฤติกรรมดังกล่าว เป็นการที่ผู้กระทำสำนึกในการกระทำประสงค์ส่อผลร้ายให้เกิดขึ้น อันมีเจตนาฆ่าแน่นนอน แต่เมื่อได้ลงมือกระทำไปแล้ว หมอมุกไม่ตายสมดังเจตนากรณี จึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า แต่มีประเด็นว่า จะเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองหรือไม่เท่านั้น เพราะการฆ่าโดยไตร่ตรองต้องรับโทษที่หนักกว่า ดังนั้น จึงต้องพิจารณาว่า การไตร่ตรองนั้นมีการคิดทบทวน โดยมีมูลเหตุกันมาก่อน แต่คดีนี้ยังไม่ชัดว่า เป็นการไตร่ตรองหรือไม่ อาจจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบก็ได้ เช่นเดียวกับการรับผิดทางแพ่งกองทัพบก ซึ่งเป็นนิติบุคคล และหากข้อเท็จจริง ชัดแจ้งว่า ผู้ขับรถเป็นนายทหารสังกัดกองทัพบก โดยหลักแล้ว การรับผิดทางแพ่ง ฐานละเมิดในการกระทำของบุคคลอื่นนั้น ต้องเข้ากรณีกองทัพบก เป็นนายจ้างลูกจ้าง ตัวการตัวแทนที่ต้องรับผิดของการกระทำนั้นของตัวแทน แต่ต้องดูว่าตัวการเจ้าของรถ หรือกองทัพบก ให้รถไปใช้ในราชการหรือไม่เป็นการใช้งานโดยตรงหรือไม่ แต่คดีนี้ตนเห็นว่า การเอารถไปกินเหล้า ในเวลากลางคืน ไม่จะเป็นการเอารถไปใช้ในราชการ ลักษณะนี้ จึงถือว่ากองทัพบก ไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบ แต่เป็นเรื่องที่ต้องตำหนิในข้อบกพร่องบางประการเท่านั้น ส่วนตัวคนขับรถต้องรับผิดฐานละเมิด มีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทนแน่นอน พร้อมดอกเบี้ย นับแต่วันก่อเหตุจนกว่าจะชำระเสร็จสิน