เมืองทองฯ ต้อนฟอร์ซ่า 4-1,กระต่ายเน่าพ่ายตำรวจ1-3

เมืองทองฯ ต้อนฟอร์ซ่า 4-1,กระต่ายเน่าพ่ายตำรวจ1-3

เมืองทองฯ ต้อนฟอร์ซ่า 4-1,กระต่ายเน่าพ่ายตำรวจ1-3
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มเก่งเปิดบ้านต้อน สมุทรปราการ ศุลกากร ยูไนเต็ด ขาดลอย 4-1 ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมต่อไป เช่นเดียวกับ อินทรี เพื่อนตำรวจ ที่บุกไปดับซ่า บางกอกกล๊าส ถึงลีโอ สเตเดี้ยม 3-1 ขณะที่ทีมจากดิวิชั่น 2 อย่าง พัทลุง เอฟซี ก็เอาชนะ ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด 3-1 เช่นกัน ในการแข่งขันโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 32 ทีม

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 4-1 สมุทรปราการ ศุลากร ยูไนเต็ด

การแข่งขันฟุตบอล "โตโยต้า ลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย" ที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม เป็นการพบกันระหว่าง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทีมจากไทยพรีเมียร์ลีก ต้อนรับการมาเยือนของ "ฟอร์ซ่า" สมุทรปราการ ศุลกากร ยูไนเต็ด ทีมจากดิวิชั่น 1 สำหรับเกมในวันนี้ยังคงเป็นระบบน็อคเอาท์ นัดเดียวรู้ผล โดยวันนี้เจ้าบ้านส่งชุดสำรอง ลงสนามมี ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ และ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว นำทัพ ส่วนทีมเยือนก็พักตัวหลักหลายๆ คนแต่ยังมี เอ็มมานูเอล ดีย็อค ยืนล่าตาข่าย

ก่อนเกมจะเริ่มขึ้นในเวลา 19.30 น.ได้วันนี้ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การแข่งขันต้องเลื่อนออกไปถึง 2 รอบ ซึ่งตอนแรกคาดว่าน่าจะลงเล่นในเวลา 19.45 น. แต่สนามยังรีดน้ำออกได้ไม่หมดเลยต้องมาเตะกันในเวลา 20.00 น.แทน หลังจากนั้นเริ่มเกมในครึ่งเวลา แรก เพียงแค่ น.4 ของการแข่งขันพลพรรค "กิเลนผยอง" ก็ได้เฮกันลั่นสนามเมื่อ ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ สบโอกาสชาร์จบอลจ่อๆ จากลูกเปิดฟรีคิกของ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เข้าไปอย่างง่ายดาย พร้อมส่งให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1 - 0  

ถัดมา น.16 เจ้าบ้านได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากลูกฟริคิกระยะ 22 หลาของ อานนท์ สังสระน้อย แต่จังหวะยิงไปแฉลบกำแพงลูกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย เกมผ่านครึ่งชั่วโมงแรกไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจากสภาพสนามที่เต็มไปด้วยน้ำ ทำให้นักเตะทั้งสองทีมต่อเกมได้ค่อนข้างยาก และส่วนใหญ่ใช้การโยนยาวเข้าหาเป็นหลักด้วยมำให้จังหวะสุดท้ายมักจะทำพลาดกันไปเอง

ต่อมา น.34 กิเลนผยอง ได้ลุ้นประตูที่ 2 อีกครั้งเมื่อ บูบาร์ก้า อิสซูฟู ลากบอลตัดเข้ามากลางประตูก่อนจะกดด้วยซ้ายระยะ 23 หลาบอลพุ่งตรงกรอบ แต่ไม่ผ่านมือนายทวารทีมเยือนที่ล้มตัวปัดออกหลังไปได้ น.40 ทีมเยือนได้ลุ้นประตูตีเสมอบ้างจากจังหวะที่ เชาวลิต เขียวชอุ่ม เปิดบอลเข้ากลางประตูบอลเลยผู้เล่นของทั้งสองทีมไปหมดก่อนกระเด้งไปชนเสาพุ่งมาเข้าทางของ วีระ เกิดพุดซา นายทวารเจ้าบ้านล้มตัวเซฟไว้ได้อย่างหวุดหวิด

แต่แล้วความพยายามของทีมเยือนก็มาบรรลุผลสำเร็จในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของเมื่อ เอ็มมานูเอล ดีย็อค กองหน้าผิวสีสบโอกาสโหม่งบอลจากลูกฟรีคิกส่งบอลผ่านมือนายทวารเจ้าบ้านเข้าอย่างเด็ดขาด พร้อมทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 1 - 1 หลังจากนั้นแม้ไม่นานก็จบครึ่งแรกทำให้เสมอกันไปด้วยสกอร์นี้  

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลังเจ้า บ้านไม่รอช้าเปลี่ยน 1 ตำแหน่งโดยถอดเอา อดิศักดิ์ กลิ่นโกสุมภ์ ออกและให้ วีระวุฒิ กาเหย็ม ลงมาเล่นแทน ส่วนทีมเยือนยังคงยึดชุดเดิมบู๊ต่อไป และเพียงแค่ น.53 เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจนได้จากจังหวะที่ จักรพันธ์ พรใส เปิดบอลจากฝั่งซ้ายมาที่กลางประตูและเป็น บูบาร์ก้า อิสซูฟู โหม่งเหน่งๆ เข้าไปอย่างง่ายดาย

ให้หลังจากนั้น 2 นาที เมืองทองฯ มาได้ประตูที่ 3 จากการยิงฟรีคิกระยะ 23 หลาของ จักรพันธ์ พรใส บอลพุ่งข้ามกำแพงก่อนมุดเข้าประตู ไปอย่างสวยงาม ทำให้ตอนนี้ กิเลนผยอง หนีห่าง สมุทรปราการ ยูไนเต็ด ไกลเป็น 3 - 1 แล้ว ถัดมา น.65 เจ้าบ้านได้ลุ้นประตูที่ 4 จากการยิงฟรีคิกของ อานนท์ สังสระน้อย แต่ก็ยังไม่ผ่านมือนายทวารทีมเยือนเซฟเอาไว้ได้

แต่แล้ว น.70 กิเลนผยอง ก็มาได้ประตูที่ 4 จนได้จากความยอดเยี่ยมของ บูบาร์ก้า อิสซูฟู ที่ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะกระดกบอลข้ามศรีษะของนายทวารทีมเยือนเข้าไปอย่างสวยงาม ต่อมา น.75 ยังเป็นโอกาสของเจ้าบ้านอย่างต่อเนื่องเมื่อ ปิยะพล บรรเทา ได้สับไกลจากแถวสองระยะ 25 หลาบอลพุ่งแรงแต่ไม่ผ่านมือนายทวารทีมเยือน

เกมในช่วง 10 นาทีสุดท้าย แม้ว่าทีมเยือนพยายามจะบุกสู้แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรแผงหลังของ เจ้าบ้านได้เลย หลังจากนั้นไม่นานก็จบ 90 นาที ปรากฏว่า เมืองทองฯ เปิดบ้านเอาชนะ สมุทรปราการ ยูไนเต็ด ไปแบบสบายๆ 4 - 1 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ตามความคาดหมาย ส่วนทีมเยือนก็ต้องตกรอบไปตามระเบียบหลังพ่ายแพ้ในเกมนี้

รายชื่อตัวจริงของทั้งสองทีม
เมืองทองฯ ยูไนเต็ด: วีระ เกิดพุดซา (GK), ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ (C), บูบาร์ก้า อิสซูฟู (มิโลสลาฟ ทอธ), ดิอาร์ล่า อาลี, อานนท์ สังสระน้อย, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, นฤพล อารมณ์สวะ (ดาโญ่ เซียก้า), ปิยพล บรรเทา, อดิศักดิ์ กลิ่นโกสุมภ์ (วีระวุฒิ กาเหย็ม), อาทิตย์ ดาวสว่าง
สมุทรปราการ ยูไนเต็ด: อภิรักษ์ ศรีงาม (GK), อาทร ไสงาม, ชิน ฮุน โฮ, ชาลี เอ็นกัสซัม (โอลิเวอร์ เอ็มไบ), เทวฤทธิ์ จุลสม, ภัทรพล โมลิโต, เอ็มมานูเอล เอ็นย็อค (นริศ พูนทรัพย์), ณรงค์ฤทธิ์ สามนปาล, เชาวลิต เขียวชอุ่ม, ครรชิต ชลรัตนอมฤต (C), กฤษฏา นาคพันธ์

 

บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-3 อินทรี เพื่อนตำรวจ

เกมโตโยต้าลีกคัพรอบ 32 ทีมสุดท้ายที่สนาม ลีโอสเตเดี้ยม เป็นดาร์บี้แมตช์จังหวัดปทุมธานี "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี เปิดบ้านพบกับ "สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน" อินทรี เพื่อนตำรวจ โดยผลการพบกันในลีกที่สนามแห่งนี้เลกแรก ปรากฎว่าเจ้าบ้านเอาบ้านเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 5-3

เกมนี้ทั้งสองทีมหวังที่จะผ่านเข้าไปเล่นรอบต่อไปให้ได้ทั้งคู่ ทำให้จัดผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม โดย อ.อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ กุนซือเจ้าบ้านส่ง อำนาจ แก้วเขียว ลงคุมเกมรับร่วมกับ ธฤติ โนนศรีชัย ส่วนแนวรุกส่งคู่กองหน้าตัวเก่งอย่าง ฮิโรโนริ ซารูตะ กับ ศรายุทร ชัยคำดี ลงล่าตาข่าย ทางด้านโค้ชวัง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ส่งตัวเก่งอย่าง ชาคริต บัวทอง , ลี ฮาน กุ๊ก และ สุรชาติ สารีพิมพ์ ลงสู้ศึก

ก่อนที่เกมจะเริ่ม บางกอกกล๊าส เอฟซี ทำการเปิดตัวสามผู้เล่นใหม่ที่ย้ายมาร่วมทีมในเลกที่สองอย่าง ฟาโบ เฮนริเก้ ดอสซานโตส , มิเชลลินี่ และ ราฟาเอล ซัวซ่า ซิลวา ต่อหน้าแฟนบอลเป็นครั้งแรก นอกจากนี้เกมนัดนี้ยัง วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทยมานั่งชมเกมที่บล็อกวีไอพีด้วย

คู่นี้กำหนดการเดิมจะเริ่มแข่งขันเวลา 19.00 น. แต่ก่อนเกมมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้สภาพสนามไม่พร้อมทำการแข่งขันต้องเลื่อนไปเล่นเวลา 19.45 น. แต่สภาพสนามก็ยังมีน้ำแฉะพอสมควร เริ่มเกมมาทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันทันที โดยโอกาสแรกของเกมเป็นทีมเยือนที่ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่้เจ้าบ้านเสียฟรีคิกเยื้องกรอบเขตโทษด้านซ้ายระยะประมาณ 20 หลา และเป็น ชาคริต บัวทอง รับหน้าที่ปั่นบอลผ่านกำแพงพุ่งเข้ากรอบแต่  กฤษกร เกิดผล ยังปัดออกไปได้

นาทีที่ 9 ยังเป็นโอกาสของทีมเยือนอีกครั้ง เมื่อได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย และเป็น ชาคริต บัวทอง คนเดิมรับหน้าที่ยิงอีกครั้งโดยบอลผ่านกำแพงพุ่งเข้ากรอบแต่ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านยังปัดออกไปได้ จากนั้นเกมยังเป็นทีมเยือนที่เล่นได้ดีกว่าแต่ยังไม่สามารถทำประตูขึ้นนำได้ทำให้ผ่าน 10 นาทีแรกยังคงเสมอกัน 0-0

หลังจากที่บุกอยู่นาน นาทีที่ 13 ทีมเยือนก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ ลี ฮาน กุ๊ก ยิงไกลหน้ากรอบเขตโทษ กฤษกรรับกระฉอกมาเข้าทาง อัสมิง แม ซ้ำด้วยขวาเข้าไปง่ายๆให้ทีมเยือนบุกมานำไปก่อน 1-0 หลังจากโดนประตูขึ้นนำเจ้าบ้านอยู่เฉยไม่ได้พยายามเปิดเกมลุยเพื่อเอาประตูคืนให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังทำได้ไม่ดีพอทำให้ผ่าน 20 นาทีแรกยังตามอยู่หนึ่งประตู

นาทีที่ 25 เจ้าบ้านน่าได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ ศุภชัย คมศิลป์ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษระยะกว่า 30 หลาเห็นผู้รักษาประตูทีมเยือนออกมาเลยตัดสินใจซัดไกลทันที โดยจังหวะนี้ สมพงษ์ ยอดอาจ หมดสิทธิ์รับแล้วแต่บอลพุ่งไปชนคานอย่างจรัง หลังจากตีเสมอไม่ได้ถัดมาอีก 2 นาทีเจ้าบ้านต้องโดนทีมเยือนทิ้งห่างเป็นสองประตูจากจังหวะที่ สุรชาติ สารีพิมพ์ หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษเข้าไปอย่างสวยงาม

หลังจากโดนประตูที่สองเจ้าบ้านไม่มีอะไรจะเสียพยายามลุยเพื่อเอาประตูคืนให้ได้ และนาทีที่ 32 ก็มีโอกาสจากการยิงฟรีคิกระยะ 30 หลาของ ศรายุทธ ชัยคำดี แต่บอลข้ามคานไปไกล ถัดมาอีก 1 นาทีทีมเยือนน่าได้ประตูที่สามอย่างสุดๆจากจังหวะที่ ปกเกล้า อนันต์ จ่ายให้ เฟลิเป้ เฟอร์ไรร่า หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษระยะไม่ถึง 10 หลาข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

เจ้าบ้านหลังจากที่เกมเป็นรองต้องแก้เกมเป็นคนแรกส่ง อจายี่ ลงมาเล่นแทน วัสพล โทสันเที๊ยะ เพื่อเน้นเกมรุกมากขึ้น และนาทีที่ 42 ก็ได้ประตูตีไข่แตกจนได้จากจังหวะที่ ศรายุทธ ชัยคำดี ดีดให้ ซารูตะ หลุดเข้าไปซัดจังหวะเดียวในกรอบเขตโทษบอแสกหน้าผู้รักษาประตูทีมเยือนเข้าไปอย่างสวยงาม และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเจ้าบ้านน่าตีเสมอได้ จากจังหวะที่ อนาวิน จูจีน จ่ายให้ศรายุทธหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่ไม่มีมุมยิงไหลมาให้ ซารูตะได้ซัดด้วยขวาแต่โดนบล็อกไปอย่างน่าเสียดายทำให้จบครึ่งแรกเจ้าบ้านตามหลังอยู่ 1-2

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมลงสนาม โดยเกมในช่วงแรกเจ้าบ้านเป็นฝ่ายครองบอลบุกมากกว่าทีมเยือน แต่ยังไม่สามารถที่จะหาโอกาสยิงประตูแบบชัดเจนได้ ส่วนทีมเยือนก็ไม่ได้เน้นตังรับอย่างเดียวพยายามหาโอกาสยิงประตูเช่นกันแต่ในช่วง 10 นาทีแรกทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ทำให้สกอร์ยังเหมือนเดิม

นาทีที่ 61 ทีมเยือนน่าได้ประตูที่สามจังหวะสวนกลับเร็ว สุรชาติ สารีพิมพ์ รับบอลยาวจากเพื่อนร่วมทีมหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่จับบอลไม่ดีพลาดโอกาสยิงประตูไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นเจ้าบ้านแก้เกมอีกครั้งส่ง ราฟาเอล ซัวซ่า ซิลวา ลงมาเล่นแทน อนาวิน จูจีน แต่หลังจากนั้นแต่ให้หลังแค่สองนาทีต้องโดนประตูที่สามจากจังหวะที่ อัสมิง แม ตัดบอลได้หน้าเขตโทษก่อนจะหาจังหวะสับไกลด้วยขวาระยะ 20 หลาบอลพุ่งเสีบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงามให้ทีมเยือนหนีห่างเป็น 3-1

เจ้าบ้านไม่มีอะไรจะเสียพยายามลุยแหลกเพื่อเอาประตูคืนให้ได้ ส่วนทีมเยือนหลังจากที่ได้ประตูที่สามก็ไม่เร่งเกมมากนักพยายามเน้นการครองบอลมากกว่า ทำให้เจ้าบ้านเล่นไม่ถนัดและแทบหาโอกาสยิงประตูไม่ได้ ทำให้ผ่าน 75 นาทียังเป็น อิทรี เพื่อตำรวจ ที่บุกมานำห่างถึง 3-1

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 80 เจ้าบ้านน่าได้ประตูตีตื้นจากจังหวะที่ ราฟาเอล ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนล็อกเหมือนจะยิงและจ่ายไปให้ ศรายุทธ ชัยคำดี หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายแต่บอลถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นเจ้าบ้านก็มีลุ้นอีกครั้งจากการยิงไกลของ ราฟาเอล แต่ผู้รักษาประตูทีมเยือนยังปัดออกไปได้

บางกอกกล๊าสยังคงไม่ละความพยายามในการเอาประตูคืน และนาทีที่ 87 ก็ได้ลุ้นจากการยิงฟรีคิกระยะ 20 หลาของ ศรายุทธ ชัยคำดี แต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย นาทีสุดท้าย สุรชาติ สารีพิมพ์ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาบอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้ทำให้จบเกม อินทรี เพื่อนตำรวจ บุกมาเอาชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 3-1 ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกโตโยต้าลีกคัพต่อไป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บางกอกกล๊าส เอฟซี:
กฤษกร เกิดผล(ผู้รักษาประตู) , ธฤติ โนนศรีชัย , อำนาจ แก้วเขียว , วัสพล โทสันเที๊ยะ , ศุภชัย คมศิลป์ , อนาวิน จูจีน , คูนิฮิโก้ ทากิซาว่า , พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ , ทนงศักดิ์ ประจักกะตา , ฮิโรโนริ ซารูตะ , ศรายุทร ชัยคำดี
อินทรีเพื่อนตำรวจ: สมพงษ์ ยอดอาจ(ผู้รักษาประตู , กฤษฎี ประกอบของ , วูยุน , รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ , ชาคริต บัวทอง , สุรชาติ สารีพิมพ์ , อัสมิง แม , ลี ฮานกุ๊ก , เฟลิเป้ เฟอร์ไรร่า , ปกเกล้า อนันต์ , โย แจ มิน

 

พัทลุง เอฟซี 3-1 ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด

ศึกโตโยต้า ลีกคัพ 2011 รอบ 32 ทีม วันที่ 29 มิถุนายน 2554 เมื่อเวลา 18.00 น.ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ทีมพัทลุง เอฟซี  เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ในการแข่งขันฟุตบอล โตโยต้าลีกคัพ รอบ 32 ทีม  ซึ่งทีมพัทลุงเอฟซีผ่านเจ้ารอบมาจากการเอาชนะ สงขลา เอฟซี ในรอบ 64 ทีม และจับฉลากมาพบกับทีมร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ในตรั้งนี้ โดยทั้งสองทีมส่งผู้เล่นชุดดีที่สุดลงฟาดแข้งหวังเก็บชัยชนะในนัดนี้ เพื่อผ่านเข้ารอบไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนทีมแพ้ตกรอบ
 
เริ่มเกมครึ่งแรกทีมพัทลุงเอฟซีเจ้าบ้าน ได้เปิดเกมบุกได้ดีกดดันผู้มาเยือนต่อเนื่อง โดยทีมเยือนสวนกลับเป็นระยะ เกมเข้มข้นสนุก เพราะต่างฝ่ายทำเกมรุกใสกัน จนกระทั่งนาที นาทีที่  33 กองเชียร์พัทลุงเอฟซี ก็ได้เฮ เมื่อวัชรินทร์ สุวรรณวงศ์ หมายเลข 24 ซัดประตูแรกเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวนงาม
จากนั้นอีก 3 นาที ประตูที่ 2 ก็ตามมา เมื่ออาทิตย์ หนูหลง  ยิงแฉล๊บกองหลัง ร้อยเอ็ดเข้าประตูตัวเอง และหลังจากที่เสียประตูทีมเยือนทำเกมรุกบุกหนัก และในนาที 38 ปริญญา พันธมา หมายเลข 13 ก็สามารถทำประตูได้สำเร็จ ไล่ตามขึ้นมาเป็น 2-1 หลังจากนั้นก็ทำไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรก พัทลุงเอฟซีนำ 2-1
 
ครึ่งหลัง ทีมเยือนเปิดเกมรุกตั้งแต่นาทีแรก เพื่อหวังเอาประตูคืน ในขณะที่เจ้าบ้านตั้งรับและสวนกลับในบางครั้ง จนกระทั่งนาที 40 อนุกรณ์ สางรัมย์ หมายเลข 22  ได้จังหวะบุกเดี่ยวเลี้ยงลูกไปบริเวณกรอบหน้าประตู ก่อนจะยิงผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปตุงตาข่าย ขึ้นนำเป็น 3-1 จนกระทั่งหมดเวลา พัทลุงเอาชนะ ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ไป 3-1

ไฮไลท์ เมืองทอง พบ สมุทรปราการ ศุลฯ

ไฮไลท์ บีจี พบ เพื่อนตำรวจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook