ตึงเครียด! เขมรขนรถถัง ปืนใหญ่ จ่อยิงไทย

เขมรขนรถถัง-ปืนใหญ่ ประชิดชายแดนรอบปราสาทเขาพระวิหาร หันกระบอกปืนเข้าฝั่งไทย ด้านกองทัพภาคที่2 เสริมกำลังเต็มอัตราพร้อมปกป้องอธิปไตย

(30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ บริเวณชายแดน ด้านปราสาทพระวิหาร ทหารไทยและทหารกัมพูชา ยังคงมีการตรึงกำลังในพื้นที่พิพาทรอบปราสาทเขาพระวิหาร โดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ตั้งด่านตรึงกำลังเข้มเรียงรายหลายจุด มีการสร้างบังเกอร์ เหล็กกั้น ท่อปูนซีเมนต์ รั้วลวดหนามวางขวางถนน พร้อมนำรถฮัมเมอร์ และรถจี๊ปติดตั้งปืนกลออกวิ่งลาดตระเวน นอกจากนี้กองพลทหารราบที่ 6 ได้เข้ามาเสริมกำลังทหารพราน และมีการตรวจค้นอย่างเข้มงวด ห้ามบุคคลและยานพาหนะ ที่ไม่เกี่ยวกับกองทัพ ผ่านขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารโดยเด็ดขาด

ส่วนทหารกัมพูชาได้เคลื่อนรถถัง รุ่นที 55 จำนวน 5 คัน ขึ้นไปเสริมกำลัง โดยจอดรถถังติดกับปราสาทพระวิหาร หันปากกระบอกปืนเล็งมาที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ส่วนรถถังรุ่นที 54 และที 55 อีก 10 คัน ได้เคลื่อนมาเสริมกำลังที่บ้านโกมุย ต.กันตร๊วจ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ซึ่งเป็นฐานทัพกัมพูชา ที่อยู่ใกล้ปราสาทพระวิหารมากที่สุด ทั้งนี้ยังมีรถถังรุ่นที 54 อีก 10 คัน จอดประจำการอยู่ริมเทือกเขาพนมดงรัก ฝั่งตรงกันข้ามกับช่องโดนเอาว์ ต.รุง อ.กันทรลักษ์

ด้านพล.ท.สรัย ดึ๊ก ผบ.กองพลน้อยสนับสนุนที่ 3 กองทัพบกกัมพูชาได้สั่งการให้ทหารกัมพูชา ทยอยกันขึ้นมาเสริมกำลัง บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร โดยให้มารายงานตัวที่ด้านหลังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ห่างจากวัด 500 เมตร ก่อนกำลังทหารกัมพูชาส่วนหนึ่ง จะพากันแยกย้ายไปประจำการ ตามจุดที่เป็นที่ตั้งของปืนใหญ่ ปืนค.60 และปืนค.82 รอบปราสาทพระวิหารด้านทิศตะวันตก ไปจนถึงช่องคานหัก พร้อมกับสร้างบังเกอร์ซีเมนต์ขนาดใหญ่ พร้อมเคลื่อนปืนใหญ่มาประจำการ ที่หน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ

สำหรับบรรยากาศตามหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านต.เสาธงชัย ต.ภูผาหมอก ต.โนนสำราญ และ ต.รุง อ.กันทรลักษ์ ชาวบ้านทุกคนยังทำมาหากิน ทำไร่มันสำปะหลัง สวนยางพารากันตามปกติ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังมีความกังวลว่า อาจจะมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้หลายครอบครัวได้เตรียมพร้อมจัดกระเป๋าเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น สามารถอพยพได้ทันทีหากมีการปะทะเกิดขึ้น