แนวโน้มตลาด - บล.ฟิลลิป

แนวโน้มตลาด - บล.ฟิลลิป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลยุทธ์การลงทุน: Trading Buy โดยคงพอร์ตระยะสั้นในหุ้นที่ 50%   แนวโน้มตลาดวันนี้: ทิศทางระยะสั้นเป็นบวก           สำหรับวันนี้ทางฝ่ายมองปัจจัยต่างๆ ยังคงบ่งชี้แนวโน้ม SETI ในทิศทางบวก ได้แก่ 1) การเลือกตั้งของไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค. ซึ่งผ่านไปด้วยดี โดยพรรคเพื่อไทยได้เสียง ข้างมากและจะได้จัดตั้งรัฐบาล ทำให้คาด SET จะอยู่ในช่วง Honeymoon Period 2) ตลาดสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในวันพฤหัสและศุกร์ ขณะราคาน้ำมันปิด ทรงตัวในระดับสูง โดยเช้านี้ตลาดหุ้นภูมิภาคยังขยับตัวขึ้นต่อ  3) ค่าเงินบาทเช้านี้ (7.25 น. แข็งค่ามาที่ 30.45 เทียบ 30.70/ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัส และ 4) นักลงทุนต่างชาติ ยังซื้อสุทธิต่ออีก 2.13 พันล้านบาทในวันพฤหัส  สำหรับปัจจัยที่นักลงทุนต้องจับตาใกล้ ชิด คือ ผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจมีการให้ใบเหลือง/ใบแดงที่ส่งผลต่อคะแนน และจำนวนพรรคร่วม รวมถึงความคืบหน้าหน้าตารัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะกระทรวงสำ คัญ เช่น คลัง, พาณิชย์, อุตสาหกรรม ฯลฯ ว่าเป็นที่ยอมรับโดยประชาชนและต่างชาติ หรือไม่             กลยุทธ์การลงทุน: ยังแนะนำ Trading Buy โดยให้คงพอร์ตระยะสั้นในหุ้นไว้ที่ 50% จากที่ SETI สามารถยืนเหนือ 1036 จุดได้ ทั้งนี้ให้เน้นหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาปรับลงมามาก และยังคาดมีผลกำไร 2Q54 ที่ดี เช่น กลุ่มแบงก์, เกษตร/อาหาร นอกจากนี้อาจเทรด หุ้นที่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งหุ้นที่ทางเทคนิคเลือก ได้แก่ MLINK, SC, ADVANC             แนวต้าน : 1046-1050          แนวรับ : 1036-1030   ปัจจัยเด่นวันนี้           + กกต. เผยผลเลือกตั้งไม่เป็นทางการ เพื่อไทยจะได้สส. 264 คน, ประชาธิปัตย์ 160 คน โดยมีผู้มาใช้สิทธิราว 74%             ใกล้เคียงปี 2550           + ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น 152.92 จุดและ 168.43 จุดในวันพฤหัสและศุกร์จาก ตัวเลขการผลิตเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น             รวมถึงการคลายกังวลปัญหากรีซ           + นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 2.13 พันล้านบาทในวันพฤหัส           + ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยในพ.ค.ยังขยายตัว แม้ภัยพิบัติญี่ปุ่นกระทบโดยได้แรงหนุน จากการบริโภค, ลงทุนภาคเอกชน,             ส่งออกและท่องเที่ยว           0 ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ทรงตัวในระดับสูง โดยบวก 65 เซนต์ในวันพฤหัสก่อนปรับ ลง 48 เซนต์ในวันศุกร์สู่ 94.94 ดอลลาร์/             บาร์เรลจากตัวเลขภาคโรงงานที่อ่อนแอ ของจีน           - พาณิชย์แถลงตัวเลข CPI เดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 4.06% YoY, 0.13% MoM ขณะที่ Core CPI โต 2.55% YoY, 0.18% QoQ             โดยตัวเลข 1H54 โต 3.56% และ 1.91% YoY ตามลำดับ           0 ผู้ว่า ธปท. มองเงินบาทอ่อนค่าเป็นเรื่องปกติ ตามปัจจัยนอกประเทศและการเมือง ส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ระบุบาทอ่อน 1%             เงินเฟ้อขึ้น 0.1-0.15%           - คลังเผยเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพ.ค.อยู่ที่ 4.2% เพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย. 54 อยู่ที่ 4% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2.5%             เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอยู่ที่ 2.1 %            0 สศค. คาดการณ์ GDP ของไทยใน 2Q54 ปี 54 จะขยายตัวได้ 2.5-3.5% เทียบ YoY ขณะที่ตัวเลขทั้งปีจะโต 4.5%             หรืออยู่ในช่วง 4-5% เท่ากับที่คาดไว้ก่อนหน้า นี้เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ด้านอัตราดอกเบี้ยนโย บายในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 3.50%           0 คลังเผยจะเปิดประมูลพันธบัตรรัฐบาล ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.54 รวม 1.25 แสน ล้านบาทเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ             และปรับโครงสร้างหนี้             โดย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประจำวันที่ 4 ก.ค. 2554  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook