หนุ่ม ควงเจ้าของลิขสิทธิ์ สั่งปิดไอซ์มอนสเตอร์
นักแสดงหนุ่มชื่อดัง "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" พร้อมด้วย Mr.Charswick Ragas เจ้าของลิขสิทธิ์และกรรมการผู้จัดการบริษัทของไอซ์มอนสเตอร์ จำกัด ในฟิลิปปินส์ และหุ้นส่วน Mr.Gerrard ตั้งโต๊ะแถลงข่าวฟ้องร้องทางแพ่งและอาญา "นายอธิป โชติญาณวงษ์" เจ้าของบริษัท Ice do Ice ในประเทศไทย กรณีฉ้อโกงถอดถอนหุ้นนักแสดงหนุ่มโดยไม่ยินยอม และยังไม่ได้รับเงินปันผลตามที่ควรจะได้รับ อีกทั้งยังยักยอกเงินเข้าบัญชีของตนเอง
ทั้งนี้ Mr.Charswick Ragas ยังแฉอีกว่าทางต้นสังกัดไม่ได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์ในอัตรา 5 เปอร์เซ็น เนื่องจากนายอธิปอ้างว่ากิจการนั้นขาดทุน ทั้งที่บริษัท Ice do Ice ในประเทศไทยได้เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์จากแฟรนไชน์ทั่วประเทศ 7 เปอร์เซ็นต์ และยังได้ขยายสาขามากกว่า 40 สาขาอีกด้วย ชี้บริษัทดังกล่าวหมดสัญญาไปตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้วและยังไม่มีการต่อสัญญาใดๆทั้งสิ้น ฉะนั้นจึงขอให้แฟรนไชน์ระงับการใช้เครื่องหมายการค้านี้ หากยังมีผู้แอบอ้าง ต้นสังกัดจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
กรรชัย: "คดีที่กำลังดำเนินการฟ้องร้องมี 2 คดีคือแพ่งและอาญา เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) ทางศาลอาญาได้มีการวินิจฉัยและประทับรับฟ้องเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางกรรมการของบริษัท Ice do Ice ตัวแทนจำหน่ายของไอซ์มอนสเตอร์ในประเทศไทย ก็ตกเป็นจำเลยเรียบร้อย เพราะฉะนั้นอยากบอกกับแฟรนไชน์และลูกค้าให้ได้รับทราบถึงเรื่องราวของคดีอาญา 3 หัวข้อด้วยกัน
1. เป็นการถอดถอนชื่อผู้ถือหุ้นของตัวผมออกโดยที่ตัวผมเองไม่ได้ยินยอม และได้มีการนำเอกสารผู้ถือหุ้นไปแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานที่กระทรวงพาณิชย์
2. จำเลยทั้ง 2 คนได้นำเงินของบริษัทออกไปใช้จ่ายส่วนตัว ในมุมกลับกันตัวผมเองทำงานมา 4 ปี กลับไม่ได้รับเงินปันผลเลยแม้แต่สลึงเดียว ถือเป็นเรื่องผิดวิสัยในการลงทุนอยู่แล้ว
3. บางสาขาของ Ice do Ice ต้นสังกัดของไอซ์มอนสเตอร์ในประเทศไทย ปรากฏว่าเงินที่ขายได้บางสาขาแทนที่จะนำส่งมาที่บริษัท แต่กลับไปเข้าบัญชีของจำเลยที่ 2
ฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่?
กรรชัย: "ผมไม่ได้เรียกอะไรเลย เรียกแค่ส่วนของผมที่ควรจะต้องได้ เป็นเงินปันผลรายปี ค่าแบรนด์และค่าลงทุนต่างๆ ก็เป็นเงินจำนวนประมาณนึง หลัก 10 ล้านขึ้น"
"ทางฝั่งจำเลยได้ออกมาแถลงข่าวครั้งนึงบอกว่ามีเงินที่กลับเข้าในบริษัท 200 ล้านบาท ซึ่งผมได้ไปเช็กกับกรมสรรพากร ก็มีจริง แต่ค่าความเสียหายที่ผมเรียกไปก็คงต้องคิดอีกทีนึง"
"นอกจากนี้ยังมีเจ้าของลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้าของฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ก็มีเรื่องราวที่ต้องมาชี้แจงให้กับแฟรนไชน์และประชาชนชาวไทยได้รับทราบกันด้วย ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ด้านขวาคือ Mr. Charswick ragas ส่วนทางด้านซ้ายเป็นหุ้นส่วนชื่อ Mr. Gerrard"
Mr. Charswick ragas: " ผมเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทของไอซ์มอนสเตอร์ จำกัด เจ้าของเครื่องหมายการค้าไอซ์มอนสเตอร์ วันนี้ผมขอแจ้งให้สื่อมวลชนชาวไทยทราบว่า ในปี 2549 บริษัทของผมได้มอบสิทธิ์เครื่องหมายการค้าไอซ์มอนสเตอร์ให้กับ นายอธิป โชติญาณวงษ์ ต่อมาได้เปิดบริษัทชื่อ Ice do Ice จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจน้ำแข็งใสในประเทศไทย โดยสัญญาดังกล่าวได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าหลังเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน นายอธิปและบริษัท Ice do Ice ไม่มีสิทธิ์ในการใช้เครื่องไอซ์มอนสเตอร์ในประเทศไทยอีกต่อไป"
"อย่างไรก็ตามเท่าที่ผมทราบ นายอธิปและบริษัทดังกล่าวยังคงใช้เครื่องหมายไอซ์มอนสเตอร์เรื่อยมา โดยไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายการค้าของกฎหมายไทยและฟิลิปปินส์ และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 นายอธิปไม่ได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ในอัตรา 5 เปอร์เซ็น เนื่องจากได้อธิบายว่ากิจการนั้นขาดทุน นายอธิปและ Ice do Ice ได้เก็บค่าลิขสิทธิ์จากแฟรนไชน์ทั่วประเทศ 7 เปอร์เซ็นต์แต่ไม่ได้ส่งเงินดังกล่าวให้กับต้นสังกัด"
"นายอธิปได้เปลี่ยนแปลงสินค้าทำให้เป็นการผิดสัญญาของบริษัท และได้รายงานว่าประเทศไทยเปิดร้านไอซ์มอนสเตอร์ 11 สาขาแต่ในความเป็นจริงแล้ว บริษัทได้เปิดมากกว่า 40 สาขาทั่วประเทศโดยที่ผมไม่ได้รับทราบ ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่าบริษัทไม่ได้ขาดทุนตามที่กล่าวมา ตรงกันข้ามกลับได้รับผลกำไรตอบแทนที่ดี ตามที่ได้กล่าวไปข้างตน ผมจึงอยากประกาศให้สื่อมวลชนไทยได้รับทราบว่าตอนนี้ผู้ใช้แฟรนไชน์และบริษัทที่อยู่ในความดูแลที่ยังคงใช้เครื่องหมายการค้าของไอซ์มอนสเตอร์ในประเทศไทยต้องยุติและเลิกใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าว มิฉะนั้นผมต้องดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญาหากมีผู้ฝ่าฝืน ผมจะปรึกษากับคณะของผมเพื่อดำเนินการฟ้องร้องนายอธิปและบริษัท Ice do Ice โดยเร็วที่สุด ถ้าผู้ใช้แฟรนไชน์ในประเทศไทยมีข้อสงสัยใดๆเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าของผม โปรดติดต่อผม หรือ คุณชัชวีร์ มัทวพันธ์"
ไอซ์มอนสเตอร์ในประเทศไทยหมดสัญญาแล้ว ตัวเราเองจะซื้อมาทำเองไหม?
กรรชัย: "คงจะต้องรอดูต่อไป เพราะอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุยกันว่าจะเอายังไง (แนวโน้ม?) ผมยังรักไอซ์มอนสเตอร์อยู่ ณ วันนี้มันเกิดเรื่องราวมากมาย ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ก็ค่อนข้างลดน้อยลง ก็ต้อขอปรึกษากับทางพี่น้องที่เหลืออยู่ว่าจะเอายังไงต่อไป"
ยังมีอะไรที่ส่งผลกระทบอีกไหม?
กรรชัย: "ณ วันนี้ก็ไม่มีนะครับ รอทางเขาอยู่ว่าเขาจะติดต่อผมมายังไง ถ้ายังไม่ได้ติดต่อผมก็ต้องดำเนินคดีต่อไป ก็คงมีการฟ้องร้องกันขึ้นมาอีก 2-3 คดี เพราะมันมีเรื่องราวของเอกสารที่ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ คงจะต้องไปพูดคุยกันในชั้นศาลอีกทีนึง"
หากคุยกันนอกรอบ ทางนั้นยอมจ่าย 10 ล้านกว่า เรื่องราวจะจบลงไหม?
กรรชัย: "อย่าใช้คำว่า 10 ล้านกว่าๆ เลย เอาเป็นในส่วนที่ผมควรจะได้รับผลตอบแทนที่ผมลงทุนไปดีกว่า เพราะฉะนั้นก็อยากได้ความชัดเจนเท่านั้นเอง"
ลงทุนไปกับไอซ์มอนสเตอร์เท่าไหร่?
กรรชัย: "จำนวนเงินสดประมาณนึง แต่มันจะมีเรื่องราวของการที่ผมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์และได้เสียสิทธิ์กับสินค้าต่างๆ รวมถึงได้มีการไปถ่ายภาพกับทางแคนนอนประเทศไทย เพื่อที่จะนำเอากล้องวงจรปิด 20 กว่าตัว มูลค่ากว่า 2 ล้านบาทมาติดตามไอซ์มอนสเตอร์ทุกสาขา แต่สิ่งที่ย้อนกลับมาก็คือทางนู้นเขาบอกว่าผมเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ของไอซ์มอนสเตอร์ ซึ่งเรื่องนี้สามารถเช็กได้ที่กระทรวงพาณิชย์ว่ามีชื่อของผมเป็นผู้ถือหุ้นอยู่หรือเปล่าและผมเองก็ได้ชำระเงินถูกต้องตามกฎหมาย แล้วก็ยังมีสัญญาของแคนนอนประเทศไทยที่ทำไว้กับผมว่าต้องนำกล้องวงจรปิดไปติดร้านไอซ์มอนสเตอร์ทั่วประเทศ ซึ่งผมมีหลักฐานทุกอย่าง"
อีก 2 คดีที่เตรียมฟ้องคือคดีอะไร?
กรรชัย: "เป็นเรื่องราวของเอกสารที่เขายื่นมาแล้วไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ อันนี้ต้องปรึกษาทางทนายอีกครั้งนึง"