Daily Direction - บล.บีฟิท
Market Attitude: ตลาดยังแกว่งตัว / รอดูที่ 1,070 ยืนได้หรือไม่ หลังจากที่กลับมาขึ้นได้ระยะหนึ่ง ตลาดหุ้นก็กลับสู่ความผันผวน ปัจจัยลบกลับเข้ามาในตลาดอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก0.25% วานนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ ทำให้ตลาดกังวลว่ามาตรการคุมเข้มด้านการเงินของจีนอาจส่งผลให้เศรษฐกิจและอุปสงค์ชะลอตัวลงด้วย ขณะที่ยุโรปเอง การประชุมธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB วันนี้ ก็มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อเช่นกัน นอกจากนี้ เจ้าประจำในการเขย่าตลาดอย่าง มูดีส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวของโปรตุเกสลง 4 ขั้น สู่ระดับ Ba2 หรือ "ระดับขยะ" จากระดับ Baa1 เพราะกังวลว่ารัฐบาลโปรตุเกสอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณ ก็ถือเป็นข่าวลบระลอกใหม่ ที่เข้ามากดดันตลาดหุ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตามหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวาน โดยตลาดรอดูตัวเลขการจ้างงานในวันศุกร์นี้ หุ้นไทยเรายังร่วงกลับลงมา หลังจากขึ้นแรงไปเมื่อวันจันทร์ มุมมองระยะสั้นยังคาดว่าดัชนีจะยังแกว่งตัวผันผวนต่อ แต่ถ้าเล่นสั้นดูที่ระดับ 1,070 ยืนได้หรือไม่ ถ้าไม่หลุด จะลุ้นกลับขึ้นไป โดยมีแนวต้านที่โซน 1,080-1,085 จุด กลยุทธ์การลงทุน - ระยะสั้น-กลาง: ถือพลังงาน 50% + ถือเงินสด 25% - Trading : เก็งกำไรในกรอบ 1,070-1,100 จุด (Stop loss ถ้าหลุด1,070 จุด) Market Viewpoint: ตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ +56.15 จุด +0.45% ปิดที่ 12,626.02 นักลงทุนยังคงซื้อหนุนตลาด ก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.ในวันศุกร์นี้ โดยคาดว่าตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวเพิ่มขึ้นและอัตราว่างงานจะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากข่าวจีนประกาศขึ้นดอกเบี้ย รวมทั้งการรายงานดัชนีภาคบริการที่ชะลอตัวลงของสหรัฐ และมูดีส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลงสู่ระดับขยะ น้ำมันดิบ NYMEX -0.24 ดอลลาร์ -0.25% ปิดที่ 96.65 ดอลลาร์/บาร์เรลปิดร่วงลง ในขณะที่จีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ และมูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกส ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนกังวลกับอุปสงค์น้ำมัน จีน - ธนาคารกลางจีนประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ ในความพยายามควบคุมแรงกดดันด้านราคา การเมือง/เศรษฐกิจ - "ยิ่งลักษณ์" วางกรอบนโยบายแถลงต่อสภาลั่นเดินหน้าทันที 7 เรื่องเร่งด่วน เน้นฟื้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาค่าครองชีพ สร้าง ความปรองดอง คลัง - ธปท. กล่าวว่า ผู้ที่จะมารับตำแหน่งรมว.คลัง ควรตระหนักถึงผลกระทบด้านการคลังในระยะยาวจากนโยบายรัฐบาลใหม่ ที่เคยประกาศไว้ในช่วงหาเสียง กระแสเงินทุน/เงินบาท - ผู้ว่าธปท. คาดว่า ยังมีเงินทุนไหลเข้าในครึ่งหลังปีนี้ หลังการแก้ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป ยังไม่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นปีนี้ เงินบาทยังเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดในภูมิภาค การลงทุน/นิคมอุตสาหกรรม - กนอ.เผยญี่ปุ่นสนใจเข้ามาดูลู่ทางการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของไทย หลังมีแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตและการตลาดมากขึ้น โดย บจ.หลักทรัพย์ บีฟิท ประจำวันที่ 7 ก.ค. 2554