“สุเทพ” ปัดให้ความเห็นนโยบาย พท.ทำได้จริงหรือไม่

“สุเทพ”  ปัดให้ความเห็นนโยบาย พท.ทำได้จริงหรือไม่ ระบุจะชัดเจนต่อเมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาฯ แล้ว ขณะเดียวกันระบุ ปชป.ไม่กำหนดเวลาทำงานของรัฐบาล แต่จะตรวจสอบทุกวัน พบอะไรไม่ดี ก็จะทักท้วงในสภาฯ

ทำเนียบฯ 8 ก.ค.-  นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ กรณีพรรคประชาธิปัตย์จะจัดงานเลี้ยงขอบคุณ ส.ส.ใหม่ วันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ว่า เป็นธรรมเนียมหลังเลือกตั้งที่จะจัดเลี้ยงต้อนรับ ส.ส.ใหม่ และ ส.ส.เดิม ที่ได้รับเลือกเข้ามา  ส่วนยุทธศาสตร์ของพรรคก็มีการคุยกันเรื่อย ๆ อยู่แล้ว และว่ายุทธศาสตร์ที่ผ่านมาของพรรคไม่ได้ผิดพลาดและไม่สามารถโทษใครได้  ทุกคนในพรรคต้องช่วยกัน  และมาทบทวนว่าเรื่องไหนที่ประชาชนไม่ถูกใจก็นำมาปรับปรุง

“และถือเป็นเหตุผลที่ต้องลาออกจากเลขาธิการพรรค เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่ได้ ส.ส.น้อยกว่าเดิม จากนี้ก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้เลือกในครั้งต่อไป โดยใช้วิธีทำงานให้หนักขึ้น และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังคงมีความเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป แต่ผมจะไม่นั่งเลขาธิการพรรคแน่นอน” นายสุเทพ กล่าว 

เมื่อถามว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะทำได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกอย่างจะชัดเจน และจะได้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำได้จริงหรือไม่ก็ต่อเมื่อรัฐบาลตั้งเสร็จสมบูรณ์ และรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาฯ  สำหรับเสียงท้วงติงจากภาคส่วนต่าง ๆ  ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องรับฟัง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการทำงานของรัฐบาล เพื่อดูผลงาน 6 เดือน เหมือน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย  แต่จะตรวจสอบการทำงานทุกวันเห็น อะไรไม่ดี ก็จะทักท้วงกันในสภาฯ

ต่อข้อถามว่า รัฐบาลมี 300 เสียง กังวลว่าจะเป็นเผด็จการรัฐสภาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าเสียงข้างมากแล้วจะเผด็จการได้  น่าจะอยู่ที่พฤติกรรมมากกว่า หากมีเสียงข้างมาก แต่ทำหน้าที่ไม่ขัดระบบนิติรัฐ ก็ไม่ถือว่าเป็นเผด็จการ แต่หากใช้เสียงข้างมากนิรโทษกรรม เป็นเรื่องที่ไม่ควร 

“ความอยู่ได้ของรัฐบาลไม่ได้อยู่ที่เสียงข้างมาก แต่อยู่ที่พฤติกรรม แม้ฝ่ายค้านจะมีเพียง 9 เสียง แต่หากตรวจสอบแล้วประชาชนเชื่อ รัฐบาลก็จะเสียความนิยมไปเอง" นายสุเทพ กล่าว

ส่วนกรณีที่ กกต.รับรองคุณสมบัติ ส.ส.ของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ให้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  นายสุเทพ กล่าวว่า นายจตุพร ขาดคุณสมบัติตามกฎหมายชัดเจน  เมื่อ กกต.อนุมัติ หากถูกร้อง ก็อาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในที่สุด กกต.ก็ต้องกลายเป็นจำเลย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้มีการหารือกัน แต่ทราบว่า ส.ส.ในพรรคบางคน ก็ออกมาเคลื่อนไหว และนอกพรรคก็เคลื่อนไหวร้องเรียนแล้วเช่นกัน 

นายสุเทพ กล่าวถึง กรณีที่ศาลโลกนัดตัดสินประเด็นปราสาทพระวิหาร วันที่ 18 กรกฎาคม ว่า  ไม่รู้สึกเป็นห่วง เพราะ ครม.มอบหมายให้ส่วนที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่อยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติ ไม่เกี่ยวกับการเมือง และผลการเลือกตั้งในไทย ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินในครั้งนี้