Commodity Futures - บล.บัวหลวง
กลยุทธ์และข้อมูลประกอบการลงทุน Gold คาดเช้าวันนี้ราคาทองคำฟิวเจอร์สจะเปิดช่วงเช้าที่ประมาณ 22,450-22,500 บาทและกรอบการแกว่งตัวจะอยู่ที่บวกลบประมาณ 100 บาท ค่าพรีเมี่ยมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 200 บาท วันศุกร์เราแนะนำให้เปิด Long คาดวันนี้ขึ้นต่อ แนะนำให้ถือสถานะ Long ไปต่อเนื่อง จุด cut loss ที่ 22,400 บาท Silver คาดเช้าวันนี้ราคาเงินฟิวเจอร์สจะเปิดช่วงเช้าที่ประมาณ 1,100 บาทและกรอบการแกว่งตัวจะอยู่ที่บวกลบประมาณ 50 บาท ค่าพรีเมี่ยมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 15-20 บาท เมื่อวานเราแนะนำให้ปิดสถานะ Long ทำกำไรไปที่ 1,120 บาท เมื่อคืนปรับลดลงมา คาดต่อไปจะแกว่งตัวแคบไปก่อน เพราะมีปัจจัยจากภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง แต่มีราคาทองคำที่ปรับขึ้นค่อยหนุนจึง offset กัน ฉะนั้นแนะนำให้ชะลอการลงทุน Oil ราคาน้ำมัน Brent รีบาวด์ขึ้นมาใกล้ระดับที่ 120 เหรียญ ตามที่เราคาดไว้ก่อนหน้า หลังจากนี้มีประเด็นความกังวลหนี้ในกลุ่มสหภาพยุโรปอีกครั้ง ว่าจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในกลุ่ม ฉะนั้นราคาน้ำมันจึงน่าจะมี upside จากนี้จำกัด และอาจมีแรงขายกดดันลงมาทดสอบใกล้ 100 เหรียญต้นๆได้อีกครั้ง ข่าวสารที่เกี่ยวข้อง สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป และการเจรจรที่ยังไม่คืบหน้าเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างรัฐบาลและรัฐสภาสหรัฐ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง "ความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับการปรับเพดานหนี้ในการประชุมรัฐสภา ประกอบกับตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐ ได้ผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง" ไมค์ ดาลี นักวิเคราะห์ด้านทองคำจากบริษัท PFGBEST Group ในเมืองชิคาโกกล่าว นักลงทุนกังวลว่าปัญหาหนี้ยุโรปอาจจะลุกลามไปยังอิตาลีและสเปน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้น 0.30% แตะที่ 5.5% อย่างไรก็ตาม สัญญาโลหะที่ใช้ในแวดวงอุตสาหกรรม รวมถึงพลาตินัมและพัลลาเดียม ร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้ยุโรปและการชะลอตัวลงเศรษฐกิจสหรัฐอาจส่งผลให้ความต้องการโลหะลดน้อยลงด้วย กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนส่งผลให้เกิดแรงเทขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์ก โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อหลักภายในประเทศ พุ่งขึ้น 6.4% ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากราคาอาหารทะยานขึ้น 14.4% นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานศุลกากรจีนที่ระบุว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบ 19.7 ล้านตันในเดือนมิ.ย. ลดลง 8.6 % จากเดือนพ.ค. คมสันต์ ปรมาภูติ komson@bualuang.co.th +662 618-1333 โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 12 ก.ค. 2554
