อั้มฉุนอยากถีบหน้าคนปล่อยข่าวเข้าสปาเกย์
ออกอาการงง เลยทีเดียว สำหรับพระเอกกล้ามโต "อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์" หลังโดนข่าวเม้าท์ว่า หลังจากพอว่างเว้นจากการ ถ่ายละคร "รอยไหม" ที่ จ.เชียงใหม่ ก็ย่องเข้าร้านซาวน่าที่ชาวสีม่วงเมืองเหนือแห่ไปกันอย่างหนาแน่น ล่าสุดเจอตัวหนุ่มอั้ม ที่งาน "บรีส ท้าโหวต ดีกว่าผง 2 เท่า" ที่อาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์สีลม หนุ่มอั้ม ก็ชี้แจงว่า "เอางี้ เอาตัวคนที่เห็นมาพูดกับผมเลยไหม ผมบอกหลายครั้งแล้ว สำหรับยุคของสื่อสมัยนี้ คนเราถ้าจะเริ่มคิดอะไร แล้วเอามาพูดต่อกันมันง่ายมาก ถ้าคุณเห็นจริงคุณถ่ายรูปมาสิ คุณเอาอะไรมาพูด หรือ คุณมาพูดกับผมสิว่า ผมไปทำตรงนี้มา เอามายืนยันกัน ถ้าผมทำจริง ผมไม่แก้ตัว แต่ถ้าไม่ได้ทำจริงขอถีบหน้าสักทีได้ไหม
นี่คือ พูดแบบลูกผู้ชาย ถ้าคุณกล้าพูด กล้าทำ กล้ารับสิ ผมก็เป็นผู้ชาย ผมก็กล้าพูดกล้าทำ กล้ารับอยู่แล้ว และอีกอย่างไปเชียงใหม่ไปถ่ายละครรอยไหม ของ พี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ แล้วจะอยู่เชียงใหม่เป็นวีคๆ แค่นั้นเอง และสปาก็ไม่ค่อยเข้าอยู่แล้ว นอกจากออกกำลังกายแล้วเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเส้นมันยึด นานๆ ถึงจะเข้าสักที และตอนไปถ่ายรอยไหมที่เชียงใหม่ พอไปถึงก็ต้องเดินทางไปต่ออีก 4 จังหวัด เข้าป่าทั้งนั้นเลย แล้วจะมีเวลาที่ไหนไป ผมขอฝากถึงคนลือว่า ทำอะไรที่มันสร้างสรรค์หน่อยดีกว่า ถ้าเห็นจริงก็มาพูดกับผม มาถามผม แล้วถ้าผมบอกว่า ไม่ใช่ก็มาแย้งกันตรงนี้ แต่ถ้าคุณมาปรักปรำ หรือพูดพล่อยๆ ก็ต้องออกแรงกันสักนิด
จริงๆ มันเป็นสิ่งที่น่ารำคาญมาก คนทำงานก็ทำงานปกติ แล้วมันอะไรก็ต้องรุนแรงกันสักนิดนึง ถามว่าเหนื่อยใจกับข่าวพวกนี้ไหม ผมก็บอกทุกครั้งว่า ถ้าคุณจะพูด หรือจะลืออะไร ก็มาพูดกับผมสิ คุณมีหลักฐานหรือเปล่า อย่ามาพูดพล่อยๆ ปากแบบนี้ใครก็ทำได้ ก็ถ้าใครจะด่าผม ก็มาด่ากับผมตรงๆ อย่ามาด่าลับหลัง หรือ ฝากด่าฝากมาแบบลอยๆ ก็ต้องเจอกันหน่อยล่ะกัน โกรธไหม ก็ไม่รู้จะโกรธยังไง เราไปห้ามข่าวลือ หรือไปห้ามในสิ่งที่คนจะคิดไม่ดีกับเราไม่ได้ เพียงว่าสิ่งที่เราทำได้คือ เรายืนยันในความเป็นจริงของเรา และเราก็ต่อสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา และตอนนี้ก็เบื่อมาก เบื่อแล้ว พอได้แล้วกับข่าวพวกนี้ แค่คนเค้าพูดมา เราน่าจะมีขั้นตอนการกลั่นกรองได้มากกว่านี้ เพราะสมัยนี้เรื่องของการสื่อสาร ด้านเทคโนโลยี มันทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
แต่มันอยู่ที่เรา เราต้องกลั่นกรองเองว่ายังไง เพราะเทคโนโลยีมันต้องพัฒนาไปอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องพัฒนา ต้องขีดการรับรู้ของเราด้วย มันมีทั้งเรื่องที่ใช่และไม่ใช่ มันอยู่ที่เรา เราอย่าให้ใครก็ไม่รู้ มาหลอกใช้ เห็นเราเป็นคนโง่ และเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเล่าให้นัทฟัง มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเล่า ซึ่งเค้าก็เข้าใจอยู่แล้ว บางทีเค้าอยู่ตรงนี้ก็มีข่าวแปลกมาให้เค้าตอบเหมือนกัน ซึ่งมันก็ไม่เห็นจำเป็นต้องถามใคร มาถามที่ผมเองเลยดีกว่า ไม่ว่าจะข่าวดี ข่าวแย่ ยังไง ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าให้มาถามผม อย่ามานินทาลับหลัง ถ้าใช่คือใช่ ถ้าไม่ใช่ก็เจอกันหน่อยดีกว่า"
นี่คือ พูดแบบลูกผู้ชาย ถ้าคุณกล้าพูด กล้าทำ กล้ารับสิ ผมก็เป็นผู้ชาย ผมก็กล้าพูดกล้าทำ กล้ารับอยู่แล้ว และอีกอย่างไปเชียงใหม่ไปถ่ายละครรอยไหม ของ พี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ แล้วจะอยู่เชียงใหม่เป็นวีคๆ แค่นั้นเอง และสปาก็ไม่ค่อยเข้าอยู่แล้ว นอกจากออกกำลังกายแล้วเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเส้นมันยึด นานๆ ถึงจะเข้าสักที และตอนไปถ่ายรอยไหมที่เชียงใหม่ พอไปถึงก็ต้องเดินทางไปต่ออีก 4 จังหวัด เข้าป่าทั้งนั้นเลย แล้วจะมีเวลาที่ไหนไป ผมขอฝากถึงคนลือว่า ทำอะไรที่มันสร้างสรรค์หน่อยดีกว่า ถ้าเห็นจริงก็มาพูดกับผม มาถามผม แล้วถ้าผมบอกว่า ไม่ใช่ก็มาแย้งกันตรงนี้ แต่ถ้าคุณมาปรักปรำ หรือพูดพล่อยๆ ก็ต้องออกแรงกันสักนิด
จริงๆ มันเป็นสิ่งที่น่ารำคาญมาก คนทำงานก็ทำงานปกติ แล้วมันอะไรก็ต้องรุนแรงกันสักนิดนึง ถามว่าเหนื่อยใจกับข่าวพวกนี้ไหม ผมก็บอกทุกครั้งว่า ถ้าคุณจะพูด หรือจะลืออะไร ก็มาพูดกับผมสิ คุณมีหลักฐานหรือเปล่า อย่ามาพูดพล่อยๆ ปากแบบนี้ใครก็ทำได้ ก็ถ้าใครจะด่าผม ก็มาด่ากับผมตรงๆ อย่ามาด่าลับหลัง หรือ ฝากด่าฝากมาแบบลอยๆ ก็ต้องเจอกันหน่อยล่ะกัน โกรธไหม ก็ไม่รู้จะโกรธยังไง เราไปห้ามข่าวลือ หรือไปห้ามในสิ่งที่คนจะคิดไม่ดีกับเราไม่ได้ เพียงว่าสิ่งที่เราทำได้คือ เรายืนยันในความเป็นจริงของเรา และเราก็ต่อสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา และตอนนี้ก็เบื่อมาก เบื่อแล้ว พอได้แล้วกับข่าวพวกนี้ แค่คนเค้าพูดมา เราน่าจะมีขั้นตอนการกลั่นกรองได้มากกว่านี้ เพราะสมัยนี้เรื่องของการสื่อสาร ด้านเทคโนโลยี มันทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
แต่มันอยู่ที่เรา เราต้องกลั่นกรองเองว่ายังไง เพราะเทคโนโลยีมันต้องพัฒนาไปอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องพัฒนา ต้องขีดการรับรู้ของเราด้วย มันมีทั้งเรื่องที่ใช่และไม่ใช่ มันอยู่ที่เรา เราอย่าให้ใครก็ไม่รู้ มาหลอกใช้ เห็นเราเป็นคนโง่ และเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเล่าให้นัทฟัง มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเล่า ซึ่งเค้าก็เข้าใจอยู่แล้ว บางทีเค้าอยู่ตรงนี้ก็มีข่าวแปลกมาให้เค้าตอบเหมือนกัน ซึ่งมันก็ไม่เห็นจำเป็นต้องถามใคร มาถามที่ผมเองเลยดีกว่า ไม่ว่าจะข่าวดี ข่าวแย่ ยังไง ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าให้มาถามผม อย่ามานินทาลับหลัง ถ้าใช่คือใช่ ถ้าไม่ใช่ก็เจอกันหน่อยดีกว่า"