กทช.เผยยอดคนใช้มือถือปี53พุ่ง70ล.เบอร์
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ปฏิบัติหน้าที่ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า สำนักงาน กสทช. ได้จัดทำข้อมูลดัชนี ชี้วัดความก้าวหน้า ในกิจการโทรคมนาคมของประเทศไทย โดยสรุป ในปี 2553 จากข้อมูลพบว่า มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวนกว่า 70 ล้านเลขหมาย เพิ่มจากปี 2552 ถึง 7.13 % จากจำนวน 65.9 ล้านเลขหมาย จากจำนวนกว่า 70 ล้านเลขหมายเป็น
บริการเติมเงิน หรือ พรีเพด 63.4 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 89.78 % และรายเดือน หรือ โพสต์เพด 7.22 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 10.22 %
ทั้งนี้ ภาพรวมของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่ง 43.73 % บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค อันดับสอง 30.17 % และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด (มหาชน) อันดับสาม 23.53 % ขณะที่บริการพรีเพดเอไอเอส มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 44 % ดีแทด มีส่วนแบ่งตลาดอันดับสอง 29.95 % อันดับสาม ทรูมูฟ มีส่วนแบ่งตลาด 24.2 %
นอกจากนี้ ยังพบว่า แนวโน้มส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอส มีแนวโน้มลดลงจาก 60 % ในปี 2545 เหลือ 43.73 % ในปี 53 การออกหลักเกณฑ์คงสิทธิ์เลขหมาย หรือ โมบายด์นัมเบอร์พอร์ตทิบิลิตี้ (Mobile Number Portability) จะเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ให้บริการพยายามแข่งขัน เพื่อรักษาฐานลูกค้าตนเอง ค่าให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีแนวโน้มที่ลดลง และจากข้อมูลยังพบอีกว่า นอนวอยซ์ มีมูลค่ามากกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท ในปี 2553 และประมาณการว่า น่าจะขยายตัวสูงถึง 30 % ในปี 2554 เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยนิยมติดต่อสื่อสารผ่านบริการด้านข้อมูล เช่น อินสตันแมสเซส อีเมล์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีแรงหนุนจากด้านอุปทาน ด้านราคาเครื่องสมาร์ทโฟน ที่มีราคาถูกลงอย่างรวดเร็ว และทำงานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
บริการเติมเงิน หรือ พรีเพด 63.4 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 89.78 % และรายเดือน หรือ โพสต์เพด 7.22 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 10.22 %
ทั้งนี้ ภาพรวมของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่ง 43.73 % บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค อันดับสอง 30.17 % และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด (มหาชน) อันดับสาม 23.53 % ขณะที่บริการพรีเพดเอไอเอส มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 44 % ดีแทด มีส่วนแบ่งตลาดอันดับสอง 29.95 % อันดับสาม ทรูมูฟ มีส่วนแบ่งตลาด 24.2 %
นอกจากนี้ ยังพบว่า แนวโน้มส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอส มีแนวโน้มลดลงจาก 60 % ในปี 2545 เหลือ 43.73 % ในปี 53 การออกหลักเกณฑ์คงสิทธิ์เลขหมาย หรือ โมบายด์นัมเบอร์พอร์ตทิบิลิตี้ (Mobile Number Portability) จะเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ให้บริการพยายามแข่งขัน เพื่อรักษาฐานลูกค้าตนเอง ค่าให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีแนวโน้มที่ลดลง และจากข้อมูลยังพบอีกว่า นอนวอยซ์ มีมูลค่ามากกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท ในปี 2553 และประมาณการว่า น่าจะขยายตัวสูงถึง 30 % ในปี 2554 เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยนิยมติดต่อสื่อสารผ่านบริการด้านข้อมูล เช่น อินสตันแมสเซส อีเมล์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีแรงหนุนจากด้านอุปทาน ด้านราคาเครื่องสมาร์ทโฟน ที่มีราคาถูกลงอย่างรวดเร็ว และทำงานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น