คอลัมน์หลี่หมิง...ยิงแฮตทริก
คอลัมน์หลี่หมิง...ยิงแฮตทริก
ปมเหตุกีฬาไทยสู่‘ความเสื่อม’
บางครั้งโลกไซเบอร์ หรือ ไฮเทค ก็ทำเอาคนครึ่งๆ กลางๆ อย่าง “หลี่หมิง” ถึงกับมึน เมื่ออีเมล์ที่ใช้เครือข่าย “ฮอตเมล์” มีปัญหามาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา (เฉพาะเข้าบ้าน) จึงเป็นปัญหากับการส่งต้นฉบับอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกัน คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ระบบที่ว่าแรง และดีที่สุดของบ้านเรา ดันมีปัญหาต้องเดินหาคลื่นเหมือนย้อนยุคมีโทรศัพท์มือถือใหม่ๆ
เมื่อกลับเข้าบ้าน โทรไปร้องเรียนแกมขู่จะเปลี่ยนระบบใหม่เป็นส้มเช้ง หรือ ดีเยี่ยม ก็ได้ พนักงานเสียงใสออกอาการกระตือรือร้น แต่ผลการโทร(ที่บ้าน)เหมือนเดิม จน “หลี่หมิง” ออกอาการหงุดหงิดหัวใจยิ่งนัก จนหวั่นจะกระทบกับความแข็งแรงของ “รากผม”
ตื่นเช้าเจอฝนตกรถติดหนึบตั้งแต่เช้า “หลี่หมิง” หนีไปนอนนวดคลายเส้นสไตล์ย้อนอดีต หลังจากเตะบอล และตีแบดมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
อยากเชิญชวนแฟนๆ ที่เคารพว่า ว่างๆ ลองใช้บริการนวดแบบโบราณ อย่าไปแนว “โลกีย์” เหมือนที่ “เฮียนอส” และ “หมอเมา” คลั่งไคล้เข้าเม็ดเลือดขาว(หนักกว่าเข้าเส้นเลือดอีกนะ)
อาการตัวเบาหวิวเกิดขึ้นตามตำราเป็นการไล่สารพิษในร่างกาย ทำให้สบายตัวหลังจากเส้นตึงหนังตาหย่อน โดยเฉพาะวัยของ “หลี่หมิง” ที่ใกล้เลข 3 ทุกอย่างจะตึงหมดตั้งแต่หู เส้น ยกเว้น......?(คงเข้าใจตรงกัน)
เฝ้าโทรศัพท์ติดตาม “รมต.” มนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการ กกท. ในฐานะประธานทำงานจัดตั้งสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับข่าวการประชุม “ไอบา” ที่ประเทศคาซัคสถาน
ในช่วงค่ำ ได้รับคำตอบแบบไม่มีคำตอบ เพราะติดตามใกล้ชิด แต่ยังไม่มีอะไรชัดเจน อย่างไรก็ตาม กลางดึกอาจมีความคืบหน้า
“เป็นห่วงเล็กๆ เหมือนกัน” รองมนตรี ระบุ เพราะ “วีซ่า” ไม่ผ่านจนไม่สามารถเดินทางไปชี้แจง “ไอบา” ร่วมกับ “บิ๊กหนุ่ม” กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท. หนวดงาม ที่แดนหมีขาวที่แยกมาอยู่เอเชีย
อย่างไรก็ตาม “หลี่หมิง” เช็กข่าวว่า “พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์” หรือ “เสธ.อ้าย” พร้อมกับคณะ 4-5 คน เดินทางถึงประเทศคาซัคสถานแล้ว ส่วนจะเข้าชี้แจง หรือถอนตัวตามที่คีย์แมนกีฬาไทยร้องขอ เพราะจะทำให้เกิดปัญหา “เดดล็อก” หาก “ไอบา” หน้ามืดให้การรับรองคณะนี้
ส่วนทีมงานของ “พลเอกนรินทร์ แทบประสิทธิ์” ได้ยื่นหนังสือถึง “รองมนตรี” กับคำสั่งศาลกีฬาโลกที่ให้การคุ้มครองชั่วคราวให้พิจารณา แต่เรื่องนี้จะผูกเป็นปมทั้งภายใน และภายนอก โดยมีตัวละครวนเวียนมากขึ้นเป็นลำดับให้ชวนปวดขมับ
“หลี่หมิง” นั่งคุยกับ “บิ๊กนรินทร์” แลกเปลี่ยนข้อมูล และให้ทรรศนะมุมมองเพื่อชั่งน้ำหนักด้วยความห่วงใย โดยเฉพาะบรรยากาศที่โดดเดี่ยวทั้งใน และนอกประเทศ จนว่ากันว่าหนาวเหน็บเจ็บเนื้อ แต่ต้องทวงคืนคำว่า “ศักดิ์ศรี” และ “ความถูกต้อง”
ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา หลายคนบอกว่า “พลเอกนรินทร์” เป็นคนดี แต่กำลัง “ขี่หลังเสือ” ต้องนั่งควบชนิดหากลงจะเจอเสือตะปบ และที่สำคัญกำลังเดินสู่ทางที่ตีบตัน เหมือนเดินสู่ถ้ำลึกมืดมิดที่ไร้ทางออก
น่าแปลกที่คนกีฬาอุทานถึงการ “อาสา” และพร้อมที่จะ “เสียสละ” แต่เนื้อแท้มีอะไรแฝงเร้นมากมาย ทุกอย่างพิสูจน์ได้ด้วยการกระทำ บางคนเดินเปลือยกายล่อนจ้อน แต่ถูกภาพมายาลวงตาให้เดินสู่ปลายเหว มีมากมายในสังคมไทย และสังคมกีฬาบ้านเรา ที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายจนเป็นปมเหตุแห่งการ “เสื่อม” นั้นแล บ๊ายบาย ปู๊นๆ ฉึกฉักๆ ๆ ๆ
