คอลัมน์‘ขอดเกล็ดบุนเดส’
โพคาลเฮี้ยน!? ยักษ์บุนเดสโบกมือลาแต่เช้า
Freiburg ist die Nummer vier
สำนักข่าว "Kicker" ของเยอรมัน พาดหัวข่าวแบบง่ายๆ ได้ใจความว่า...ไฟร์บวร์กคือทีมที่ 4 ที่ต้องกระเด็นหล่นจากเส้นทางการต่อสู้ในเกมลูกหนังแบบน็อกเอาต์ของเยอรมัน การชิงชัยในบอลถ้วยไม่มีความแน่นอนจริงๆ ทีมเล็กๆ ไม่เคยกลัวทีมใหญ่
เมื่อเป็นแบบนั้นทำให้มาเร็วและไปเร็วหลายทีม ไม่น่าเชื่อเลยว่านับตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นมาที่เริ่มต้นการต่อสู้ในวันแรกของรอบแรกนี้มีทีมจากลีกสูงสุดเมืองเบียร์จากไปก่อนวัยอันควร ไล่ตั้งแต่โวล์ฟสบวร์ก ก่อนจะตามด้วยเลเวอร์คูเซ่น, เบรเมนและปิดท้ายด้วยไฟร์บวร์กจากเกมเมื่อวันอาทิตย์
ทีมหลังไม่เท่าไหร่เพราะถือว่าดูไม่เหนือกว่าอุนเตอร์ฮัคคิงก์ ทีมจากลีกา 3 ที่เล่นได้แข็งแกร่ง เสมอเวลาลงเตะที่สปอร์ตปาร์ค บ้านของตัวเอง สุดท้ายก็เป็นฮัคคิงก์ของกุนซือไฮโค่ แฮร์ลิช พลิกล็อกเขี่ยไฟร์บวร์กร่วงตกรอบแบบสุดเซอร์ไพรส์
เทรนเนอร์มาร์คุส ซอร์ก ของไฟร์บวร์ก ดูไม่สบอารมณ์ที่ทีมแพ้แบบเซ็งๆ โดยได้กล่าวหลังจบเกมนี้แบบอารมณ์บ่จอยว่า "การพ่ายแพ้แบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกผิดหวังมาก เพราะว่าเราต้องการเดินหน้าต่อไป
ฟุตบอลถ้วยเป็นอะไรที่เราได้ลุ้นมากที่สุด แต่สุดท้ายเราก็ต้องเจ็บปวดกันตั้งแต่ด่านแรก การที่เราแพ้เกมนี้เพราะโดนจุดโทษถึง 2 หน ทำให้ผมรู้สึกผิดหวังมากไปอีก เพราะผู้ตัดสินดูแลทีมจากลีกา 3 ในฐานะเจ้าบ้านมากเกินไปหรือเปล่า?"
ก่อนหน้านั้นที่แย่กว่าก็คือ โวล์ฟสบวร์ก, เลเวอร์คูเซ่น และเบรเมน สามทีมระดับชั้นของบุนเดสลีกาไปไม่ลา มาไม่ไหว้อย่างรวดเร็วด้วยการแพ้ทีมรองบ่อนทั้งหลายตกรอบ ที่แย่กว่าใครก็คือเลเวอร์คูเซ่น ของกุนซือคนใหม่โรบิน ดุตต์ ที่บุกไปยำเดรสเดนและก่อน 3-0 แต่สุดท้ายมาโดนตีเสมอและมาแพ้ตอนต่อเวลาพิเศษ 3-4 ร่วงตกรอบแบบพลิกล็อกสนั่นหวั่นไหว!!
กุนซือดุตต์ กล่าวหลังเกม "เกมนี้ชัยชนะสมควรเป็นของเดรสเดนแล้ว เพราะว่าเราเล่นได้ดีกว่าแค่ 60 นาทีเท่านั้น หลังจากที่พวกเขาพังประตูไล่มาเป็น 1-3 มันทำให้เขาเร่งเครื่องมาจนได้และเราก็แผ่วไปอย่างชัดเจน เรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรเหมือนกัน ในการทำงาน 6 สัปดาห์กับการเตรียมทีม เราแผ่วกันเกินไป กับการนำห่าง 3-0 แล้วปล่อยให้แพ้ ก็สมควรต้องพิจารณาตัวเอง"
เบรเมนก็แพ้ไฮเด้นไฮม์แบบพลิกล็อก 1-2 ทั้งๆ ที่ได้ประตูออกนำไปก่อนจากลูกยิงสุดสวยของมาร์คุส โรเซนเบิร์ก กองหน้าสวีดิชที่กลับมาจากการยืมตัวที่ราซิ่ง ซานตาเดร์ แต่สุดท้ายก็แพ้แบบหมดรูป มีงานหนักอีกเยอะมากสำหรับกุนซือโธมัส ชาฟ
"เกมในฟุตบอลถ้วยนั้นเราประมาทแค่นิดเดียวก็มีสิทธิพลาดแล้ว เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับเราในเกมนี้ เราพลาดโอกาสไปเยอะมากในเกมนี้ การเสียประตูของเราทำให้ผมรู้สึกแย่ไปเลย เราใช้โอกาสที่มีไม่ได้ ก่อนพ่ายแพ้ มันทำให้เราไม่อยากจะบอกความรู้สึกว่าเราผิดหวังแค่ไหนกับการตกรอบ" ชาฟ กล่าวหลังเกมแบบสุดผิดหวัง
พวกที่ไม่หล่นตกรอบแต่ก็เกือบตายมีหลายทีมเหมือนกันสำหรับทีมจากบุนเดสลีกา ทีมอย่างฮอฟเฟ่นไฮม์ และไมนซ์ก็ยังผ่านเข้ารอบในแบบที่ต้องสู้จนถึงต่อเวลา ขณะทีมแชมป์เก่าชาลเก้ หรีอแชมป์บุนเดสลีกา ดอร์ทมุนด์ ไม่ต้องเหนื่อยการเข้ารอบที่ไล่ถล่มคู่ต่อสู้แบบสบายๆ
โธมัส ทูเคิล กุนซือไมนซ์ กล่าวหลังเกม "นี่แสดงให้เห็นว่าเกมฟุตบอลถ้วยของแท้แพ้ตกรอบเป็นอย่างไรบ้าง เราเจอกับเกมยากลำบากมาก และพวกเขาก็เล่นเกมรับได้เหนียวแน่นกว่าที่ใครจะคาดคิดไว้ มันทำให้เราต้องเหนื่อยกันอีกตอนต่อเวลา แต่ยังต้องชื่นชมพวกเขาที่ยังมีหัวใจสำหรับการเป็นผู้ชนะได้ในท้ายที่สุด"
แชมป์เก่าเริ่มเส้นทางในรอบแรกแบบเหนือชั้นกว่าเอฟเซ เทนนิงเก้น ทีมจากลีกา 5 ที่มาเช่าสนามไฟร์บวร์กเตะอยู่มากมาย ก่อนจะไล่ถล่ม 11-1 คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ซัดคนเดียว 4 ประตูเป็นการเริ่มต้นที่สวยงามก่อนสตาร์ตบุนเดสลีกาฤดูกาลใหม่ด้วยทีมที่ลงตัวอย่างรวดเร็ว
หลังจบเกมนั้นอเล็กซานเดอร์ แอร์นสต์ ประตูวัย 40 ปี ของเทนนิงเก้นได้รางวัลปลอบใจที่ยอดเยี่ยมเป็นเสื้อเบอร์ 7 ของราอูล กอนซาเลซ ดาวยิงระดับตำนานของโลก ที่ทำให้เจ้าตัวยิ้มแบบมีความสุข แม่ว่าจะโดนยิงไปเกือบครบ 1 โหลก็ตาม
"หลังจบเกม ราอูลเดินมาหาผมและก็ถอดเสื้อให้ผม ที่ไม่ต้องบอกเลยว่าผมดีใจแค่ไหนกับรางวัลในการลงเตะบอลถ้วยหนนี้กับนักเตะระดับโลกแบบเขา แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว" แอร์นสต์ กล่าวหลังเกมแบบยิ้มแย้มแจ่มใส
เทรนเนอร์รังนิกของชาลเก้ กล่าวหลังเกม "เราเล่นได้ดีเยี่ยมในแบบที่เราควรทำได้ เรารู้แล้วว่า เมื่อนำ 3-0 แล้วผ่อนเกมต้องโดนยังไง จากนั้นเราไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาอีก ถือว่าเป็นการซ้อมเกมรุกของเราที่ทำได้อย่างดี และผมก็พอใจมากที่เรายิงได้เยอะ มันทำให้เราเล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้นอีก"
ดอร์ทมุนด์ก็เริ่มต้นได้ดีแม้ว่าตัวยังไม่ค่อยพร้อมแต่ก็ดีกว่าจะปล่อยให้เกิดการพลิกล็อกด้วยการบุกไปยำซานด์เฮาเซ่น 3-0 จากการพังประตูของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 2 ประตู และอีกลูกได้จากชินจิ คางาวะ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือดอร์ทมุนด์ กล่าวว่า
"เป้าหมายของเราก็คือเล่นให้ดีที่สุดเพื่อความมั่นใจก่อนเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ สิ่งที่ผมได้เห็นแล้วรู้สึกดีใจก็คือได้เห็นชินจิ คางาวะ กลับมาฟิตเต็มที่แล้ว เขาทำได้ดีเยี่ยมและทำให้คนอื่นๆ เล่นดีด้วย ซึ่งโดยรวมแล้วผมพอใจกับการทำงานของทีมที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งมากกว่า มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้น"
ฮันโนเวอร์ ทีมอันดับ 4 จากซีซั่นก่อนก็บุกไปถล่มอังเคอร์ วิสมาร์ ทีมเล็กๆ ระดับตำบล 6-0 จากการช่วยกันพังประตูของอับเดลลาอู, สตินเดิล และสต็อปเปลคัมป์
เมียร์โก สลอมก้า กุนซือของฮันโนเวอร์ กล่าวว่า "ทีมของผมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาก เราออกสตาร์ตได้ดีด้วยการกระหน่ำประตูได้อย่างสุดยอด โดยรวมแล้วผมรู้สึกยินดีที่เราออกสตาร์ตกันได้ดีกับการต่อสู้ครั้งใหม่ในฤดูกาลนี้"
โคโญจน์ก็ดูจะไม่มีปัญหาน้อยใจอะไรเรื่องการไม่ได้เป็นกัปตันทีมของลูคัส โพดอลสกี้ เพราะยังเดินหน้าช่วยกันยิงประตูกับมิลิโวเย่ โนวาโควิช พาทีมบุกถล่ม วีเด้นบรุ๊คได้แบบสบายใจ 3-0 แม้ว่าโพลดี้จะยิงไม่ได้ ก็มีส่วนกับการผ่านบอลให้เพื่อนช่วยซัดประตูได้แบบสนุกดุเดือด
สตาเล่ โซลบั๊คเค่น เทรนเนอร์ของโคโลญจน์ กล่าวว่า "แน่นอนว่าผมมีความสุขมากที่เราเอาชนะไปได้ 3-0 ครึ่งแรกเราอาจจะเล่นแบบมีปัญหากันเล็กน้อย จากนั้นเราก็ทำได้ดีขึ้นจนชนะได้อย่างไม่ยากนัก ผมดีใจที่เราได้ผ่านเข้ารอบไปได้และเราพร้อมแล้วในเกมลีก สุดสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึง ลูคัส โพดอลสกี้ เล่นได้ดีมาก เขาสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยมโดยตลอด"
"ม้าขาว" สตุ๊ตการ์ต ลงเตะตั้งแต่คืนวันศุกร์เกือบแย่เหมือนกัน แต่ก็ยังบุกไปเชือดเวเฮ่น วีสบา เด้นหวุดหวิด 2-1 จากประตูชัยของซดราฟโก้ คุซมาโนวิช
บรูโน่ ลาบบาเดีย เทรนเนอร์สตุ๊ตการ์ต กล่าวหลังเกมว่า "เป้าหมายของเราไม่ได้เหนือไปกว่าการที่ต้องผ่านเข้ารอบต่อไป แต่ไม่ใช่เกมที่ง่ายๆ เลย ผมยอมรับว่ามีความสุขมากที่เราเอาชนะได้ในเกมนี้ ผมมีปัญหานักเตะเจ็บหลายคน แต่ก็ได้เห็นดาวรุ่งหลายคนที่ก้าวมาทำได้ดีอย่างพาทริก เบาเออร์ เป็นนักเตะที่จะเป็นกำลังสำคัญของเราในอนาคตได้ดี"
ต่อจากนี้...มีทีมที่ต้องจับตามองอีกทีมที่หวังว่าจะไม่ทำให้เกมโพคาลมันเกิดเรื่องที่เฮี้ยนไปมากกว่านี้!?