เหนือยังอ่วม! น้ำป่า ดินสไลด์ ฝนกระหน่ำ

3 ส.ค. - แม่น้ำสายหลักในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ลำพูนน้ำขยายวงกว้างถึงแหล่งทอผ้าไหม ส่วนอุตรดิตถ์น้ำป่าหลากแม่น้ำน่านสีขุ่นแดงปลาเลี้ยงในกระชังน็อคตาย แล้วกว่า 1 ตัน

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์แม่น้ำวังในจังหวัดลำปางยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อ เนื่อง โดยเฉพาะตำบลนาแส่งและนาแก้ว อ.เกาะคา น้ำท่วมอย่างหนักสูงเกือบ 2 เมตร เดือดร้อนกว่า 1,000 ครัวเรือน ชาวบ้านบางพื้นที่ต้องย้ายออกมาพักอาศัยในจุดปลอดภัยชั่วคราว พร้อมร้องขอความช่วยเหลืออาหารและน้ำดื่ม ส่วนตัวเมืองลำปางหลายชุมชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำวังเดือดร้อนเช่นกัน ซึ่งประสบภัยน้ำท่วมมาเป็นวันที่ 3 แล้ว อีกทั้งระดับน้ำยังทรงตัวสูงและกระแสน้ำไหลเชี่ยว

ส่วน จ.อุตรดิตถ์ แม่น้ำน่านที่ไหลผ่านอำเภอตรอนขึ้นสูง ไหลเชี่ยว และมีสีแดงขุ่น หลังจากมีฝนตกหนักมาหลายวัน ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำลำห้วยสาขาและล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ ตำบลวังแดง และกระทบต่อปลาเลี้ยงในกระชังของเกษตรกร ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงปลากระชังใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ ทำให้ปลาสำลักโคลนและน็อคตายกว่า 1 ตัน โดยนายไพโรจน์ ทองทา เกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง หมู่ 4 ต.วังแดง กล่าวว่า ปลาทับทิม ปลานิล ปลากดคลังในกระชังที่เลี้ยงไว้ 100 กระชัง ปรับตัวกับสภาพน้ำที่มีสภาพดินโคลนไม่ทัน ทำให้ขาดออกซิเจน และยังมีซากปรังหักพังไหลมากับซัดกระชัง ทำให้ปลาตกใจน็อคตาย และเดือนสิงหาคมนี้ใกล้ถึงเวลาจับปลาขายแล้ว แต่มาประสบปัญหาดังกล่าวมีปลาตายเฉลี่ยวันละ 1 ตัน หรือ 1,000 กิโลกรัม ซึ่งได้ลงทุนไป 200,000 บาท

ที่ จ.ลำพูน แม่น้ำแม่กวงปริมาณน้ำขึ้นอยู่ที่ 5.76 เมตร เลยจุดวิกฤตที่ 5.00 เมตร จากฝนตกหนักมาทั้งคืน ทำให้บ้านเรือนริมฝั่งของอำเภอเมืองถูกน้ำท่วม 7 ตำบล เกือบ 2 เมตร ถนนสายเทคโนโลยีหมู่บ้านครูภาคเหนือถูกตัดขาดไม่สามารถสัญจรได้ ล่าสุดน้ำขยายวงกว้างท่วมย่านการค้าในตำบลเหมืองง่าและแหล่งทอผ้าไหม

ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำยวมและแม่น้ำแม่สะเรียง เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเกิดดินสไลด์ทำให้ต้นไม้ใหญ่ล้ม เสาไฟฟ้าหักโค่น ปิดทับเส้นทางหลายสาย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมเครื่องจักรเพื่อเปิดเส้นทาง แต่การทำงานก็เป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่บ้านนาคาว เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าต้องตัดกระแสไฟหลังเสาไฟฟ้าแรงสูงริมแม่น้ำแม่สะเรียง ขนาด 12 เมตร ถูกกระแสน้ำกัดเซาะ จนเสาไฟล้มลงไปในแม่น้ำถึง 2 เสา และยังดึงต้นที่อยู่ข้างเคียงล้มตามไปด้วย - สำนักข่าวไทย