จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของปิศาจแดง
สำหรับฤดูกาลที่ แมนฯยูไนเต็ด ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งด้วยการกลับมาเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง แถมเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นทีมที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุด มากที่สุด 19 สมัย
แต่ฟุตบอลรายการที่เป็นความหวังมากที่สุดอีกรายการอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็อกหักในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยความพ่ายแพ้ชนิดที่ว่าสู้ไม่ได้ต้องกลับไปยกเครื่องใหม่กันเลยทีเดียว
นอกจากนั้น พอจบฤดูกาลนี้ทีมยังเสียนักเตะสำคัญสองคนคือ แกรี่ เนวิลล์ กับ พอล สโคลส์ ที่ประกาศรีไทร์เลิกเล่นอย่างเป็นทางการ ทำให้ขุมกำลังอ่อนลง โดยเฉพาะรายของ พอล สโคลส์ ส่งผลให้ทีมต้องเสียเพลย์เมกเกอร์ที่ไว้ใจได้ไปอีกราย
ซึ่งฤดูกาลก่อนหน้านั้นทีมก็เสียคริสติอาโน่ โรนัลโด้ ไป ตอนนี้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ปัญหาของทีมคือไม่มีตัวเชื่อมเกม และทำเกมตรงกลางสนาม ที่เป็นสิ่งสำคัญในเกมรุกของทีม เพราะบางครั้ง การใช้ปีกสองข้างก็ไม่ได้ผล
ส่วนตำแหน่งตัวริมเส้นคงไม่ใช่ปัญหาของ แมนฯยูฯ เพราะมีนักเตะชั้นดีมากมายอย่าง นานี่, ปาร์ค จี ซอง, อันโตนิโอ วาเลนเซีย หรือ ไรอัน กิ๊กส์ ที่ยังอยู่เป็นแบ็กอัพให้ แถม แอชลี่ย์ ยัง ที่ซื้อเข้ามาใหม่ก็เป็นปีกอาชาซะด้วย
ดังนั้นเป้าหมายของ แมนฯยูฯ ในฤดูกาลใหม่ก็คงเป็นเพลย์เมกเกอร์ดีๆ ซักตัว ที่ถือว่าเป็นระดับโลก ซื้อมาใช้ได้เลย ไม่ต้องการเวลาอีกแล้ว เนื่องจากทีมต้องการแชมป์ยุโรปให้เร็วที่สุด เพื่อทำฝันของท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้เป็นจริง ก่อนจะลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีม และสร้างทีมให้ดีกว่าบาร์เซโลน่าชุดปัจจุบัน
ทำให้ดูขุมกำลังตอนนี้ก็ถือว่าเกือบสมบูรณ์ ยิ่งกองหลังได้ ฟิล โจนส์ เข้ามาเสริมทีมอีก บวกกับกองหน้าที่มีให้เลือกแบบครบครันต่างคนต่างสไตล์ ซึ่งเลือกใช้ได้ในสถานการณ์ที่ต่างกันทั้ง เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หรือ ไมเคิล โอเว่น
แต่ถ้าใช้นักเตะชุดที่มีผลลัพธ์คงคล้ายๆ ฤดูกาลที่แล้วที่เกือบจะประสบความสำเร็จ ซึ่งส่งผลให้ทีมต้องหาเพลย์เมกเกอร์ซักตัวมาเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย
จากสถานการณ์ในปัจจุบัน เวสลีย์ สไนเดอร์ ถือว่าเป็นเป้าหมายอันหนึ่งของแมนฯยูฯเลยทีเดียว เพราะเป็นเพลย์เมกเกอร์อาชีพที่เล่นตรงกลางสนาม ไม่ได้อยู่ริมเส้น แถมยังมีทีเด็ดในเรื่องการยิงประตูจากนอกกรอบเขตโทษ หรือจังหวะเซ็ตพีซ
ซึ่งทีมก็ไม่มีตัวเตะแม่นๆ มานับตั้งแต่เดวิด เบ็คแฮม หรือ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เดินจากลาโรงละครแห่งความฝันนี้ออกไป ด้วยสไตล์ที่อ่านขาดทุกจังหวะบอล เชื่อมเกมได้เป็นอย่างดีบวกกับมีความมุ่งมั่นสูงจนหลายครั้งมีเสี่ยงที่จะโดนใบแดงเหมือนกันก็น่าจะมาเพิ่มทั้งศักยภาพ คุณภาพ และความดุดันให้กับเกมรุกของแมนฯยูไนเต็ด
โดยข่าวของ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ มาแรงตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว ซึ่งปัญหาตอนนี้อยู่ที่เรื่องของค่าเหนื่อยมากกว่า เพราะค่าตัวทางอินเตอร์ มิลาน ต้นสังกัดคุยกับทางแมนฯยูไนเต็ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสไนเดอร์ต้องการค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 190,000 ปอนด์ แต่แมนฯยูฯ ให้ได้มากที่สุดคือ 180,000 ปอนด์
จึงทำให้การตกลงค่อนข้างยืดเยื้อ แถมตัวสไนเดอร์เองเป็นนักเตะประเภทบิ๊กเนมที่ผ่านการพิสูจน์ตัวมาแล้วอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแฟนปิศาจแดงส่วนใหญ่คงอยากได้อดีตนักเตะไอแอ๊กซ์ เรอัล มาดริด และ อินเตอร์ มิลาน อย่างแน่นอน จากประวัติการค้าแข้งที่ดีเหลือเกิน คว้าแชมป์ลีกกับทุกสโมสรที่ลงเล่น รวมถึงเคยสัมผัสบิ๊กเอียร์อย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว รวมทั้งการที่สไนเดอร์มาเล่นในอังกฤษก็ถือว่าเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของเจ้าตัวเองอีกด้วย
สุดท้ายนี้ก็ต้องลุ้นกันหน่อยว่าเรื่องของสไนเดอร์กับแมนฯยูฯจะจบลงอย่างไร เพราะข่าวคราวมีอย่างต่อเนื่องชนิดที่ว่าปิดไม่อยู่กันอยู่แล้ว ซึ่งเวลาของการซื้อขายนักเตะในยุโรปเหลือเพียงแค่หนึ่งเดือนก่อนจะปิดตลาดในสิ้นเดือนนี้
โดยถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าคนตาแหลมอย่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คงไม่วางจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายทิ้งไว้แน่ เนื่องจากภายในทีมแมนฯยูฯยังมีพื้นที่อีกนิดให้ลองใส่จิ๊กซอว์ที่ชื่อว่า เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ลงไปครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก บท บ.ก หมอเมาเล่า
