อภิสิทธิ์ชี้ฐานะปท.แกร่งเงินสำรอง1.8แสนล
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่าน สถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เวลาประมาณ 20.30 น. ถึงรายงานสถานะทางเศรษฐกิจ เพื่อส่งมอบงานบริหารประเทศไทยว่า สถานะทางด้านเศรษฐกิจ เอื้อต่อการที่จะให้รัฐบาลใหม่ สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งพี่น้องประชาชนได้สะท้อนมาโดยตลอดถึงความห่วงใยในเรื่องปัญหาของแพง ค่าครองชีพ ประกอบกับการที่สถานการณ์เศรษฐกิจในโลก ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก รวมไปถึงความผันผวนของราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ อยากให้สบายใจได้ว่า ขณะนี้ฐานะทางการเงิน การคลัง และฐานะของประเทศมีความมั่นคงอย่างมากทางด้านเศรษฐกิจ และจะทำให้รัฐบาลใหม่ สามารถที่จะมีความยืนหยุ่น ในการที่จะปรับนโยบายทางด้านการเงินการคลัง เพื่อรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้ โดยฐานะของประเทศไทย ในขณะนี้ มีเงินสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่มขึ้นถึง 70,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการที่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน โดยติดอันดับประเทศ ที่มีเงินสำรองสูงเป็นอันดับที่ 13 ของโลก เช่นเดียวกันกับฐานะการคลังในประเทศ จากการที่ประเทศมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีการกู้ยืมเงินแต่รัฐบาลก็ได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะมีการนำงบประมาณกลับเข้าสู่ความสมดุลได้ ในระยะเวลา 4 ปี ข้างหน้านั้น ก็ปรากฏว่า ขณะนี้ หลังจากที่ปีงบประมาณปัจจุบัน ผ่านพ้นไป เป็นระยะเวลาประมาณ 3 ไตรมาส รัฐบาลมีเงินที่จัดเก็บรายได้เพิ่มเกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ ในงบประมาณถึงเกือบ 200,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้ฐานะการคลัง มีความมั่นคง และทำให้การจัดงบประมาณสำหรับปีงบประมาณต่อๆ ไปทำได้คล่องตัวยิ่งขึ้น โดยน่าจะอยู่ในวิสัยที่ประเทศไทย สามารถกลับเข้าสู่ภาวะการสมดุลได้
นอกจากนั้น ตัวเงินคงคลังเองในปัจจุบันนั้น ก็มีสูงถึง 300,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในวันที่นายอภิสิทธิ์ เข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งอยู่ที่ประมาณเพียง 50,000 ล้านบาท สำหรับในภาพรวมของตัวเลขเศรษฐกิจ ที่เป็นความมั่นคงนั้น หนี้สาธารณะของประเทศ เมื่อคิดเป็นสัดส่วนกับรายได้ประชาชาติ ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ประมาณร้อยละ 40 หรือต่ำกว่า ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ต่ำมาก เมื่อเทียบเคียงกับประเทศต่างๆ ในโลก