รับน้องสยองขวัญ

กลายเป็นหนังดราม่าเขย่าขวัญสั่นประสาทตื่นเต้นลุ้นระทึกแอ๊กชั่นกันมันหยด สรุปแล้วมีครบทุกรสสำหรับแมตช์รูดม่านเปิดฉาก ศึกฟุตบอลลีกฤดูกาลใหม่ของอังกฤษ เมื่อดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ลงเอยด้วยชัยชนะของฝั่งสีแดง

เกมที่เวมบลีย์นัดนี้แมนฯยูไนเต็ดถูกยกให้เป็นต่อแมนฯซิตี้เล็กน้อย ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีกที่บารมีเหนือกว่าแชมป์เอฟเอคัพ และสองสตาร์หน้าใหม่ที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษของทั้งสองฝ่ายคือนักเตะอิมพอร์ตมาจากลา ลีกา

แมนฯยูฯส่งดาวิด เด เกอา ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนชุดแชมป์ยู 21 ยุโรปหมาดๆ ลงสนามให้ทีมในแมตช์แข่งขันจริงเป็นนัดแรก หลังย้ายมาจากแอตเลติโก มาดริด ขณะที่แมนฯซิตี้ใส่ชื่อเซร์คิโอ “กุน” อาเกโร่ ศูนย์หน้าทีมชาติอาร์เจนตินา ไว้เป็นเพียงตัวสำรอง

ส่วนนักเตะหน้าใหม่คนอื่นๆ มีเพียงแอชลี่ย์ ยังที่ได้ลงไปลากเลื้อยให้ผีแดงในโผ 11 ตัวจริง ส่วนเรือใบสีฟ้าไม่ได้ส่งนักเตะหน้าใหม่ลงเป็นตัวจริงเลยซักคนเดียว

เด เกอาถูกเพ่งเล็งมากกว่าใครๆ ในฐานะเข้ามารับตำแหน่งอาถรรพ์ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอมกุนซือของผีแดง ไม่ค่อยจะรุ่งในการปั้นนักเตะตำแหน่งนี้ และปีนี้ก็เป็นปีท้าทาย เมื่อต้องหาจอมหนึบรายใหม่มาแทนที่สุดยอดมือกาวอย่างเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ที่แขวนถุงมือไปแล้ว

หลังจากแทบจะยืนเกาคางอยู่ในช่วงแรกของเกม โดยแทบไม่ต้องออกแรงเซฟอะไร เด เกอาก็โดนเจาะประตูไปก่อนจากลูกโหม่งของโจลีออน เลสค็อตต์ในนาทีที่ 38 ซึ่งสองเซ็นเตอร์แบ็กตัวเก๋าอย่างเนมานย่า วีดิชกับริโอ เฟอร์ดินานด์ต่างซ่อมน้องใหม่แบบจัดหนัก ด้วยการพลาดให้นายประตูหน้าใหม่ไม่มีโอกาสแก้ตัว

นายทวารวัย 20 ปีต้องเจอกับการรับน้องสยองขวัญขึ้นกว่าเดิมในช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก เมื่อถูกเอดิน เซโก้ตะบันไกลผ่านมือเข้าไปง่ายๆ ชนิดที่ภาพของผู้รักษาประตูคนเดิมๆ ของผีแดงที่เคยมาแจ้งดับในการเป็นตัวแทนปีเตอร์ ชไมเคิลลอยขึ้นมาให้เห็นกันรำไรๆ

ครึ่งหลังป๋าเฟอร์กี้สวมวิญญาณบิ๊กหอย เมื่อเปลี่ยนตัวนักเตะทีเดียว 3 คนรวด ด้วยการส่งฟิล โจนส์และจอนนี่ อีแวนส์ลงไปเป็นเซ็นเตอร์แบ็กคู่ใหม่ในเกม ส่วนทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ก็ได้ลงไปแทนไมเคิล คาร์ริคที่ตอนแรกบอกไม่ฟิตแต่ดันมีชื่อเป็น 11 ตัวจริงเฉย

เกมของผีแดงยังคงดีกว่าแบบในครึ่งแรก และคริส สมอลลิ่งที่โดนจับไปยืนแบ็กขวาจำเป็น ก็เติมขึ้นมาตีไข่แตกให้ทีมได้ตั้งแต่ผ่านไปแค่ 7 นาที ด้วยการโฉบเข้าไปดีดลูกฟรีคิกของยังเข้าไป

สกอร์ขยับมาเป็น 2-2 หลังจากนั้นอีก 7 นาที เมื่อเวย์น รูนี่ย์ต่อบอลสั้นๆ กับเคลฟเวอร์ลี่ย์กับนานี่ได้สวย ก่อนเป็นปีกอินดี้ที่หลุดเข้าไปกระดกบอลข้ามตัวโจ ฮาร์ทเข้าไปได้ ทำให้โมเมนตัมของเกมพลิกทันที

โรแบร์โต้ มันชินี่อาสน์ร้อนทันทีและต้องแก้เกมบ้าง ด้วยการส่งแกเร็ธ แบร์รี่ลงไปช่วยตัดเกมแดนกลาง โดยดร็อปมาริโอ บาโลเตลลี่ที่เกมนี้ยังไม่มีโอกาสได้โชว์เกรียนอย่างจะจะ เท่าไหร่

เรือใบส่งอดัม จอห์นสันลงไปแทนเจมส์ มิลเนอร์อีกคนหลังเกมเข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ส่วนผีแดงก็ส่งราฟาเอล ซึ่งเป็นอีกคนที่เซอร์ให้ข่าวว่ายังมีปัญหากับอาการบาดเจ็บอยู่ ลงไปแทนปาทริซ เอฟร่า ขณะที่กาแอล กลิชี่ก็ได้ประเดิมสนามในแมตช์แข่งขันจริงให้แมนฯซิตี้เช่นกัน หลังย้ายมาจากอาร์เซนอล ด้วยการลงไปแทนอเล็กซานดาร์ โคลารอฟ

ผีแดงใช้โควตาเปลี่ยนตัวให้คุ้มอีกก่อนหมดเวลาหนึ่งนาที ด้วยการส่งดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟลงไปแทนแดนนี่ เวลเบ็คที่ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงในเกมนี้ แต่ยังไม่เห็นวี่แววว่ากุนจะได้ลงไปช่วยเกมรุกของเรือใบแต่อย่างใดจนกระทั่ง 90 นาทีหมดลง

เมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 ดราม่าแห่งแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์การกุศลก็เกิดขึ้นอีกครั้ง และถ้าเปรียบกับหนังซักเรื่อง คนดูก็มารู้เฉลยตอนจบว่าที่แท้หนังเรื่องนี้สร้างจากบอลลีวู้ด เพราะพระเอกไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นอินี่จ๋าอาบังเอง เมื่อนานี่หลุดเข้าไปทำประตูชัยให้แมนฯยูฯ เพิ่มสถิติซิวถาดการกุศลเป็นสมัยที่ 19

จากสถิติใน 6 ปีก่อนหน้านี้ ทีมที่คว้าชัยในแมตช์ประเดิมฤดูกาลรายการนี้ได้ สามารถก้าวไปสู่ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 5 จาก 6 ครั้ง และนั่นเป็นคงสัญญาณที่ดีสำหรับแมนฯยูฯ แต่ก็ส่งสัญญาณอันตรายให้ทีมอื่นๆ ต้องร้อนๆ หนาวๆ ขนหัวลุกไปตามๆ กัน รวมถึงเรือใบหุ้มทองอย่างแมนฯซิตี้ ว่าฤดูกาลนี้คงต้องเจองานหินอีกครั้ง หากหวังเบียดแย่งแชมป์ไปจากทีมแห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ดให้ได้

เบบี้ แบร์

ขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์ ฟุตบอลผู้ดี