หมูแพง! ก๋วยเตี๋ยวศรีสะเกษขึ้นราคาชามละ 50
(9 ส.ค.) บรรยากาศการจำหน่ายเนื้อหมูตามเขียงหมูต่างๆ ภายในตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ หลังราคาหมูมีราคาสูงขึ้น โดยราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ พบว่า พ่อค้าแม่ค้ายังคงขายในราคาที่สูงขึ้น ถึงราคากิโลกรัมละ 170 บาท เนื้อสามชั้นกิโลกรัมละ 160 บาท ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องเปลี่ยนไปซื้อเนื้อไก่บริโภคแทน ซึ่งแม่ค้าเนื้อสุกรทุกแผง ต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว และเร่งแก้ไขเนื้อหมูแพงเป็นปัญหาเร่งด่วน เนื่องจากส่งผลกับประชาชนทุกสาขาอาชีพ
ขณะที่บรรยากาศการขายเนื้อไก่ พบว่าเป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนหันมาซื้อเนื้อไก่บริโภคแทนเนื้อหมู ที่มีราคาแพงเป็นจำนวนมาก รวมทั้งไก่ย่าง และผลิตภัณฑ์จากไก่ทุกชนิด ก็ได้รับความนิยมมีประชาชนเลือกซื้อกันอย่างคึกคัก ซึ่งถือเป็นโอกาสทองของพ่อค้าแม่ค้าขายเนื้อไก่ ตรงข้ามกับร้านขายหมู ที่แต่ละวันเริ่มซบเซา จะมีเพียงลูกค้าประจำ ที่จำเป็นต้องซื้อจำนวนมากๆ เช่น ร้านอาหาร ถึงจะได้ราคาที่ถูกลงมานิดหน่อย
ส่วนที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูลุงแก้ว ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูชื่อดังรสชาติอร่อยของ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ปรากฏว่า การที่เนื้อหมูแดงขึ้นราคาแพงมากกว่าเดิมเป็น ก.ก.ละ 160 บาท ทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูแห่งนี้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่า หมูแดงเป็นส่วนสำคัญในการทำก๋วยเตี๋ยว ทำให้การขายก๋วยเตี๋ยวหมู ได้กำไรลดน้อยลงมากกว่าเดิม เพราะว่า เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวหมู ต้องจ่ายค่าเนื้อหมูแดง แพงมากขึ้นกว่าเดิม และต้องแบกภาระรับราคาเนื้อหมูแพงมานานหลายเดือนแล้ว และยังไม่ได้มีการขึ้นราคาค่าก๋วยเตี๋ยวแต่อย่างใด เมื่อหมูแดงราคาสูงขึ้นถึง ก.ก.ละ 160 บาท ทำให้เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ไม่สามารถที่จะทนต่อการขาดทุนอีกต่อไปได้แล้ว และตัดสินใจปรับราคาขายก๋วยเตี๋ยวหมูสูงขึ้นกว่าเดิมอีก 10-20 บาทต่อชาม
ทั้งนี้ นางจำปา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูลุงแก้ว กล่าวว่า ตนยอมรับว่า การที่เนื้อหมูแดงขึ้นราคาสูงมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ตนได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากว่า ทำให้ต้นทุนในการทำก๋วยเตี๋ยวสูงขึ้น แต่ว่าตนก็ต้องทนยอมขาดทุนมาโดยตลอด ดังนั้นจึงได้ตัดสินใจขึ้นราคาก๋วยเตี๋ยวจากเดิมชามละ 30 บาท ขึ้นราคาเป็นชามละ 40 บาท และก๋วยเตี๋ยวพิเศษชามละ 50 บาท