บทสรุปพรีเมียร์ลีก
หลังจากเมื่อสองวันก่อน ที่กล่าวถึงทีมที่มองว่าจะเป็นแชมป์ในสายตาผม อย่าง “แมนฯ ยูไนเต็ด” ไปเป็นที่เรียบร้อย
มาคราวนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ พรีเมียร์ลีก จะได้ฤกษ์ประเดิมแข้ง
และเมื่อได้ว่าเอาไว้ถึงความยอดเยี่ยม และจะฉีกหนีทีมอื่นแบบกระจุยไปแล้วในฤดูกาลนี้ มาในคราวนี้ก็คงจะมากล่าวถึงทีมอื่นๆ ที่ ว่าทำไมถึงจะตาม แมนฯ ยูไนเต็ด ในปีนี้ไม่ทัน
ประเด็นสำคัญ ดูแล้วยังไม่มีทีมไหนที่ทำทีมได้แบบเป็นรูปเป็นร่างและน่ากลัวเหมือนแมนฯ ยูไนเต็ด เลย แม้แต่น้อย
เริ่มจากทีมที่ถูกวางไว้ว่าเป็นเต็งสองของพรีเมียร์ลีก อย่าง “สิงโตพันล้าน” เชลซี
แม้ว่าพวกเขาดูจะเริ่มขยับตัวในตลาดนักเตะบ้าง หลังจากได้ไปตัวดาวรุ่งอย่าง โรเมอู ลูคาคู กองหน้าดาวรุ่ง ที่ได้รับการจับตามองจากหลายๆ ทีม และ โอริออล โรเมอู กองกลางจากทีมอย่าง บาร์เซโลน่า
แต่การซื้อในคราวนี้ มันเหมือนกับเป็นการซื้ออนาคตของพวกเขาซะมากกว่า เพราะ ลูคาคู อายุเพียงแค่ 18 ปี หรือแม้กระทั่ง โรเมอู ที่อายุ 19 ปี แทบจะไม่มีโอกาสเลยที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมเชลซี ในชุดนี้ได้
นั้นเปรียบได้เหมือนกับว่า การซื้อของ เชลซี กับ 2 รายที่กล่าวมานั้น เหมือนไม่ได้ช่วยทำให้ศักยภาพทีมของพวกเขาดีขึ้นเลย
ยิ่งย้อนกลับไปมองทีมของพวกเขาที่มีอยู่ นับวันก็ยิ่งโรยราลงเรื่อยๆ ด้วยอายุของแต่ละคน ที่เข้าสู่เลขสามกันไปแทบจะหมดแล้ว
ศักยภาพเดิมก็ดูเป็นรองแมนฯ ยูไนเต็ด อยู่แถมปีนี้ยังไม่ดีขึ้นอีก ดูแล้วแค่รองแชมป์ ก็ควรจะน่าพอใจแบบสุดๆ ซะแล้ว สำหรับเชลซี ต่อที่ทีมเต็ง 3 อย่าง แมนฯ ซิตี้ ถึงตอนนี้ ถือว่ายังดูโอเคไม่น้อย ด้วยความที่มีเงินใช้เยอะและที่สำคัญ คือใช้ซะด้วย การมี คาร์ลอส เตเบซ หรือไม่ ถึงตอนนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรมากแล้ว
เพราะมีก็ได้ใช้ แต่ถ้าไม่มี เราอาจจะได้เห็น นักเตะอย่าง เอโต้ หรือแม้กระทั่ง สไนเดอร์ มาอยู่ในทีมพวกเขา
ผมว่า โรแบร์โต้ มันชินี่ เริ่มที่จะเรียนรู้กับเกมพรีเมียร์ลีก มาแบบเข้าที่เข้าทางแล้ว รูปแบบต่างๆ ของซิตี้ คงจะดูดีขึ้น
แม้ว่าจะโดนปิศาจแดงยิงไปถึง 3 ลูก ในเกม คอมมูนิวตี้ ชิลด์ แต่ผมว่าแนวรับของพวกเขานี่ดูแข็งแกร่งขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนกัน
ส่วนเกมรุก ยังไงแล้วปีนี้จะดูมีสีสันขึ้นแน่ๆ หลังจากที่ปีที่แล้วนี่ พึ่งคาร์ลอส เตเบซ มากไปซักนิดนึง การเข้ามาของ “เอล คุง” เซร์คิโอ อาเกโร่ จะช่วยให้การผลิตสกอร์ของพวกเขาง่ายกว่าเดิมเยอะ
แถมเรื่องของขนาดทีมที่มีตัวจริงกับตัวสำรอง ที่ใกล้กันมาก ตรงนี้จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พวกเขาได้เปรียบกับอีกหลายๆ ทีมที่เบียดกัน
ภาพรวมดูดี แต่ก็ยังไม่ดีถึงการเป็นแชมป์ แค่ได้เบียดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงท้ายๆ เล็กๆ ก็ถือว่ายอดเยี่ยม แต่ยังไงแล้ว ที่ 3 ก็ไม่น่าจะไปไหน
เต็ง 4 ในหน้ากระดาษ ตอนนี้ถือว่าใกล้กันมากๆ สำหรับ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล ซึ่งจะว่าไป อันดับ 4 นี่ก็สำคัญแบบสุดๆ เพราะอย่าลืมว่า เดิมพัน คือการไปเล่นในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ความจริงแล้ว มันไม่ใช่มีแค่ 2 ทีม เพราะยังต้องรวมทีมอย่าง “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่ปีนี้พวกเขาจะกลับมามีสมาธิในเกมพรีเมียร์ลีก แบบเต็มๆ อีกครั้ง
ผมว่าทั้ง 3 ทีมนี่ใกล้กันมากนะ แต่ถ้าให้ผมเลือก ผมยังมองว่า ทีมอย่าง สเปอร์ส น่าจะเป็นทีมที่ลงตัวที่สุด
พวกเขาเก็บนักเตะตัวหลักๆ เอาไว้ได้หมด ทำให้ความเป็นทีมยังมีอยู่เหมือนเดิม ตรงนี้เรื่องของความเข้าใจต่างๆ ถือว่าได้เปรียบทีมอื่น
ส่วนอาร์เซนอล ปีนี้เรื่องของจิตใจคือสิ่งที่จะบั่นทอนฝีเท้าของพวกเขาเยอะแน่ๆ ตราบใดที่ ฟาเบรกาส และ นาสรี่ ยังไม่แน่นอน และคิดถึงกับคำว่าย้ายออก คนอื่นๆ ก็คงยากที่จะมีสมาธิ
ส่วน ลิเวอร์พูล ความแน่นอนไม่มีเอาซะเลย การดึงนักเตะใหม่ๆ เข้ามา ดูดีไม่น้อยก็จริง ตัวแปรอยู่ที่พวกเขานะทำให้พวกนั้นปรับตัวเข้ากับทีมได้ดีแค่ไหน
ซึ่งถ้าให้เลือก 3 ทีมนี้ ผมเลือก สเปอร์ส ครับ
โดยสรุปแล้ว พรีเมียร์ลีก ของผมปีนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์ขาดลอย, เชลซีเข้าที่สอง, แมนฯ ซิตี้ ตามมาที่สาม ส่วนที่สี่ บี้กันมันส์ สุดท้าย หวยออกที่ “ไก่เดือยทอง” ครับ
เรื่องโดย "วาว จารุวัฒน์"
ขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์ เปลี่ยนจุดยิง