ทักษิณเข้าเขมรสุดสัปดาห์นี้-สส.เตรียมพบ

ทักษิณเข้าเขมรสุดสัปดาห์นี้-สส.เตรียมพบ

ทักษิณเข้าเขมรสุดสัปดาห์นี้-สส.เตรียมพบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แหล่งข่าวจาก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะเดินทางมายัง กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในระหว่างวันที่ 19-21 ส.ค.นี้ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ มีกำหนดการจะพบกับ สมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา และ พลเอก เตีย บัญ รองนายกฯและรมว.กลาโหมกัมพูชา และจะมีการนำนักธุรกิจ นักลงทุนต่างประเทศ ประชุมเกี่ยวกับธุรกิจพลังงานในกัมพูชา นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะช่วยรัฐบาลไทย เจรจากับกัมพูชา เพื่อร่วมกันพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไทย-กัมพูชา บริเวณอ่าวไทย ในรูปแบบรัฐต่อรัฐ เพื่อให้ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ซึ่งมี กระทรวงการคลัง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เข้าไปลงทุนร่วมกับกัมพูชาด้วย

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีการนัดหมายตีกอล์ฟ ร่วมกับ สมเด็จฮุน เซน ด้วย โดยแหล่งข่าวเผยว่า ส.ส. พรรคเพื่อไทย หลายกลุ่ม เตรียมเดินทางไปเยี่ยมคารวะ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ กัมพูชา เพราะเดินทางมายังประเทศเพื่อนบ้านใกล้ไทย

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มอบหมายให้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.คลังคนใหม่ สานต่อโครงการนี้ทันที รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะเจรจาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่มีปัญหาความขัดแย้งในรัฐบาลที่ผ่านมาด้วย โดย นายพิชัย ได้เผยถึง นโยบายที่ต้องเร่งดำเนินการทันที คือ การพัฒนาพื้นที่ทับซ้อน ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่เป็นแหล่งปิโตรเลียมสำคัญ เนื่องจาก มีการสำรวจและพิสูจน์พบว่า มีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรอง ที่สามารถใช้ได้อีก 30-40 ปี หากไทยและกัมพูชา สามารถเจรจากันได้สำเร็จ ประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชนและเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ได้มีการเจรจาจนใกล้สำเร็จแล้ว โดยจะแบ่งพื้นที่ทับซ้อน 26,000 ตร.กม. ออกเป็น 3 พื้นที่ ในขณะนี้ยังไม่ทราบว่า ปริมาณสำรองที่แท้จริงมีเท่าใด แม้ทางกัมพูชา จะคาดว่ามีประมาณ 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ก็ตาม แต่คาดว่าจะเป็นพื้นที่ ที่มีศักยภาพเพราะใกล้แหล่งเอราวัณของไทย โดยแนวทางการบริหารพื้นที่ เพื่อแบ่งผลประโยชน์ระหว่างกัน สามารถดำเนินการได้หลายรูปแบบ เช่น การแบ่งพื้นที่ฝ่ายละครึ่ง หรือ จัดตั้งบริษัทร่วมขึ้นมาบริหาร

ก่อนหน้านี้ พนมเปญโพสต์ สื่อเขมร รายงานเมื่อวันที่ 13 ก.ค. โดยอ้างจาก วิกิ ลีกส์ ที่ระบุว่า กัมพูชาและไทย เกือบจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแหล่งน้ำมันบนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ถูกขับพ้นตำแหน่ง ในปี 2549 เสียก่อน โดยเอกสารลับทางการทูตของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2550 ได้กล่าวถึงรายละเอียดการไปเยือนกรุงพนมเปญของสภาธุรกิจ สหรัฐฯ-อาเซียน และร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงกัมพูชา ว่า ผู้แทนของ บริษัท โคโนโค ฟิลลิปส์ ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ รัฐบาลกัมพูชา หาทางคลี่คลายข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย โดยระบุว่า บริษัทได้รอสัญญาสัมปทานการสำรวจพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลาเกือบ 1 0 ปีแล้ว ในระหว่างการประชุมครั้งนั้น

นายเกา คิม ฮอร์น เจ้าหน้าที่ระดับสูง กระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ได้แจ้งต่อบริษัทว่า รัฐบาลไทยและกัมพูชา เกือบได้ข้อยุติในเรื่องนี้ ไม่นานนักก่อนรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกขับพ้นจากการเป็นรัฐบาล นายเกา กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกัน ในหลักการแบ่งรายได้ ดังนี้ พื้นที่ใกล้ไทยมากที่สุด ไทยได้ 80% กัมพูชา 20% ส่วนพื้นที่ตรงกลางแบ่ง 50%-50% และพื้นที่ใกล้ฝั่งกัมพูชา ไทยได้ 20% กัมพูชา 80% ในเวลานั้น เขาคิดว่า ถ้ามีเวลาในการเจรจาเพิ่มเติมอีก 6 เดือน ก็น่าจะตกลงกันได้

วิกิ ลีกส์ เปิดเผยเอกสารอีกฉบับ เกี่ยวกับการประชุม เมื่อปี 2550 ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงกัมพูชา กับ นายแกรี่ ฟลาเฮอร์ตี้ ผู้จัดการทั่วไปด้านการสำรวจ บริษัทเชฟรอน ซึ่งได้สัมปทานสำรวจ บล็อกเอ นอกชายฝั่งกัมพูชา ซึ่ง เชฟรอน สนใจมากที่จะได้สิทธิ์ในบล็อกที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล โดย แกรี่ ระบุว่า พื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย เป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่ดีที่สุดในโลก สำหรับการสำรวจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook