น้ำท่วมทั่วไทยยังวิกฤต แม่สลองพนังกั้นน้ำแตก
สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ของประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียง และภาคตะวันออก ยังคงวิกฤต โดยที่ในวันนี้ (20 ส.ค.) บนดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นแหล่งต้นแม่น้ำแม่คำ เกิดฝนตกลงมากันอย่างต่อเนื่อง จนทำให้น้ำคำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วและไหลเชี่ยวกราก อีกทั้งยังได้กัดเซาะพนังกั้นแม่น้ำคำพังเสียหาย เป็นระยะทางยาวกว่า 15 เมตร ทำให้น้ำจากแม่น้ำคำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร กว่า 100 หลังคาเรือน ในหมู่ที่ 10 และ หมู่ที่ 14 ของตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ซึ่งอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำคำ ซึ่งบางจุดน้ำท่วมสูง เกือบ 2 เมตร และมีประชาชนหลายครอบครัวติดอยู่ในบ้านไม่สามารถออกมาได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูงและไหลเชี่ยวกราก ทางเทศบาลตำบลแม่คำ ต้องนำอาหารกล่อง น้ำดื่มเข้าไปแจกจ่าย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ขณะที่ทางอำเภอแม่จัน ได้ประกาศให้ราษฎรในตำบลแม่คำ ตำบลจันจว้า ตำบลจันจว้าใต้ ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำคำ เร่งอพยพสิ่งของไว้บนที่สูงและเตรียมพร้อมในการรับมือน้ำคำ ไหลเข้าท่วม เนื่องจาก จนถึงขณะนี้ยังมีฝนที่ตกลงมาตลอดเวลา ก็ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำคำ ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.มุกดาหาร นายบุญช่วย น้อยสันเที๊ยะ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.มุกดาหาร เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ในขณะนี้ ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยบริเวณลำห้วยสาขา ทั้งห้วยปางกี่ ห้วยมุก ห้วยปางทราย น้ำได้ล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมนาข้าว และท่วมถนนในเส้นทาง อ.เมือง - คำชะอี ทำให้ประชาชน ต้องระมัดระวังในการสัญจร สำหรับการช่วยเหลือ ทางองค์กรส่วนท้องถิ่นและทางจังหวัด ได้จัดหาถุงยังชีพ ช่วยเหลือประชาชนไปแล้วในทุกอำเภอ ประมาณ 6,000 ชุด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ นำเรือท้องแบนเข้าพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนแล้ว
ขณะที่ใน จ.นครสวรรค์ นายคำรณ อิ่มเนย หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า จังหวัดนครสวรรค์มีพื้นที่น้ำท่วมขังอยู่ในขณะนี้ 4 อำเภอ ซึ่งได้มีการแจกจ่ายถุงยังชีพไปแล้ว 4,200 ชุด และแจกจ่ายกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมไปแล้ว 160,000 กระสอบ และได้ระดมเครื่องสูบน้ำติดตั้งในพื้นที่น้ำท่วมแล้ว ในส่วนความเสียหาย พบ มีบ้านเรือนราษฎร ได้รับผลกระทบแล้ว 8,383 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 54,236 ไร่ ทั้งนี้ แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากการที่ เขื่อนภูมิพล พร่องน้ำลงมา เพื่อรองรับน้ำเหนือระลอกใหม่
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมชุมชนตลาดเก่าเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ต้นแม่น้ำปราจีนบุรี จุดบรรจบระหว่างแควพระปรงกับแควหนุมาน น้ำได้ไหลล้นฝั่งท่วมชุมชนที่ตั้งติดต้นแม่น้ำ ระดับน้ำ สูงกว่า 60 เซนติเมตร ชาวบ้านกว่า 200 ครอบครัว ได้รับผลกระทบต้องอพยพขึ้นไปอยู่ชั้นสองของตัวบ้าน ทั้งนี้ น้ำได้เริ่มไหลล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.54 หนุนสูงติดต่ออย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านได้นำเรือไว้สำหรับบรรทุกและสัญจรไป-มาแทนยานพาหนะรถยนต์ และ จยย. เบื้องต้น เทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้นำข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่มสะอาด แจกจ่ายแก่ประชาชนและจัดเรือท้องแบน จำนวน 2 ลำ ไว้บริการแก่ชุมชนด้วย