'รสนา'ค้านดึงทุนสำรองตั้งกองทุนมั่งคั่ง

'รสนา'ค้านดึงทุนสำรองตั้งกองทุนมั่งคั่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพ กล่าวในการอภิปรายการแถลงผลงานรัฐบาลว่า เห็นด้วยกับการยกเลิกกองทุนน้ำมัน ในส่วนการยกเลิกการจัดเก็บ ก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี เพื่อให้ประชาชนในภาคครัวเรือน ได้ใช้ก๊าซในราคาถูก แต่สำหรับในภาคอุตสาหกรรมไม่ควรได้รับประโยชน์ในส่วนนี้มากนัก เพราะภาคอุตสาหกรรมมีกำไรมหาศาล จากการใช้ก๊าซเป็นปัจจัยในการผลิต เกรงว่า กองทุนน้ำมันจะกลายเป็นกองทุนประกันกำไรธุรกิจ เพราะบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน ) มีกำไรเฉพาะในส่วนของก๊าซถึง 3 หมื่นล้านบาท โดยกำไรในส่วนของภาคการผลิต อยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิถึง 8 หมื่นล้านบาท ในปี 2553 เพิ่มขึ้นจาก ปี 2552 ถึง 39.5% ปัญหาพลังงานของไทย อยู่ที่การปล่อยให้มีการผูกขาดเพียงไม่กี่ราย ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทำให้ไม่เกิดการแข่งขันที่แท้จริงและมีการสร้างต้นทุนเทียมขึ้นมา ถ้าดำเนินนโยบายพลังงานลักษณะคนที่ได้ประโยชน์จะอยู่กับผู้ถือหุ้นปตท. จำนวน 48% ที่มีผู้ถือหุ้นอยู่ไม่เกิน 2 หมื่นคนเท่านั้น

น.ส.รสนา กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดของรัฐบาล ในการตั้งกองทุนความมั่งคั่ง ด้วยการนำเงินสำรองของประเทศมาใช้ในการดำเนินการ เพราะไม่มีหลักประกันว่า จะสามารถนำเงินสำรองของประเทศมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดความเสียหาย ทางที่ดีควรหาเงินจากแหล่งอื่นมาดำเนินการ เช่น การขยายระบบสัมปทานพลังงานให้กระจายมากขึ้น เพราะไทยจัดอยู่ในลำดับที่ 23 ของโลก ในการขุดเจาะพลังงานใต้ดินขึ้นมาทำการผลิต แต่เป็นระบบสัมปทานที่กระจายอยู่ไม่กี่รายเท่านั้น คิดเป็นเพียง 10% ซึ่งตัวเลข 10% ทำให้ได้รับได้รายได้ เพียง 3.7 หมื่นล้านบาท แต่ถ้ามีการขยายระบบสัมปทานให้ถึง 50% จะทำให้รัฐบาลมีรายได้ถึง 1.8 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งเงินส่วนนี้เพียงพอที่จะนำไปใช้ตั้งกองทุนความมั่งคั่งได้ โดยไม่ต้องใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook