หุ้นไทยปิดร่วง 15.95 จุด นักลงทุนผวาเศรษฐกิจโลกถดถอย

(6 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 5 ก.ย. ดัชนีปรับตัวลงทันทีที่เปิดตลาด และเริ่มเหวี่ยงตัวลงแรงในช่วงบ่ายจนท้ายตลาด ตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลงทั่วหน้า จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้ระหว่างวันดัชนีหุ้นไทยร่วงลงต่ำสุดที่ 1,046.64 จุด ก่อนทะยานขึ้นสูงสุดที่ 1,059.55 จุด จนมาปิดตลาดที่ 1,049.23 จุด ลดลง 15.95 จุด หรือร้อยละ 1.50 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21,589.65 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 297.25 จุด ลดลง 0.93 จุด มูลค่าซื้อขาย 692.21 ล้านบาท

ด้านสัดส่วนการลงทุนแบ่งเป็นนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 1,931.16 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 1,432.92 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิที่ 184.36 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิที่ 3,548.44 ล้านบาท

นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก เพราะได้รับแรงกดดันจากปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในแถบยุโรป และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้นักลงทุนขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง

ส่วนแนวโน้มวันที่ 6 ก.ย. มองว่า ดัชนีอาจแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบๆ ทั้งแดนบวกและลบ โดยมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิค (รีบาวน์) ขึ้นได้ หลังปรับลดลงติดต่อกันหลายวันทำการ ซึ่งต้องติดตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคเป็นหลัก เพราะตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการซื้อขายในวันที่ 5 ก.ย.เนื่องในวันแรงงาน ทำให้ขาดปัจจัยชี้นำ พร้อมทั้งการที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะชี้แจงตัวเลขสร้างงาน ประเมินแนวรับที่ 1,045 จุด และแนวต้าน 1,055-1,060 จุด ด้านกลยุทธ์ แนะนำซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว หรือเก็งกำไรระยะสั้นๆ.-สำนักข่าวไทย