กรณ์ ห่วงลอยตัว LPG กระทบภาคครัวเรือน

นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผย ผ่าน FM 102.75 Mhz สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า มีความเป็นห่วงเรื่องการลดจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่จากเดิมเคยจัดเก็บจากผู้ค้าน้ำมัน มาเป็นปล่อยให้ ผู้ค้าน้ำมันขึ้นราคา ปรากฏว่า เม็ดเงินที่เคยเก็บจากผู้ค้าเข้ารัฐ พอขึ้นราคาก็กลายเป็นเข้ากระเป๋าผู้ค้าแทน ได้เกิดข้อสงสัยว่า ทำไมถึงทำอย่างนั้น ทั้งนี้ มองว่าการดำเนินนโยบายของรัฐบาลเป็นตัวอย่างของการคิดไม่ทะลุ เพราะหลังจากเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ก็ได้ประกาศลดราคาน้ำมันทุกชนิดลง ปรากฏว่า ทำให้เกิดส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินธรรมดา มีราคาใกล้เคียงกับ แก๊สโซฮอล์ ทำให้คนหันมาใช้ เบนซินธรรมดา เพิ่มขึ้นมาก กระทบถึงภาคการเกษตร ที่ปลูกพืชพลังงาน อ้อย-มันสำปะหลัง ที่ถูกนำมาผลิตเป็น เอทานอล ผสมเบนซิน ทางรัฐบาลก็ได้ให้ผู้ค้าน้ำมัน ขึ้นราคาเบนซินธรรมดา เพื่อให้เกิดส่วนต่างทางด้านราคาน้ำมัน ทั้ง 2 ชนิด จูงใจคนหันมาใช้แก๊สโซฮอล์ ถามว่า การปล่อยให้ผู้ค้าขึ้นราคา รัฐบาลมีอะไรกับผู้ค้าน้ำมันหรือไม่

ส่วนการเตรียมลอยตัว ก๊าซ LPG ในอนาคต มีผลกระทบข้างเคียงเกิดขึ้นที่ กองทุนฯ จะต้องกู้ยืมเงินอีก เพื่อนำมาชดเชยในส่วนของผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งหากรัฐบาลลอยตัวจริง ๆ จะเกิดผลกระทบใน 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1.ภาคการขนส่ง เช่น รถแท็กซี่ ซึ่งใช้ ก๊าซ LPG กับ 2.ภาคครัวเรือนทั่วประเทศ ที่ใช้ก๊าซหุงต้ม LPG ซึ่งผลของการลอยตัว จะไปทำให้ราคาเพิ่มขึ้น จากประมาณ 260 บาท ในปริมาณ 15 กิโลกรัม ขึ้นเป็น 560 บาท ตามราคาตลาดกว่าเท่าตัว การที่ พรรคประชาธิปัตย์ ต้องการให้รักษาระดับก๊าซหุงต้ม เนื่องจากก๊าซผลิตเองได้ มีต้นทุนต่ำกว่าตลาดโลก ซึ่งไม่ควรให้คนไทยใช้ก๊าซแพงและควรนำรายได้จากราคาเบนซิน 95,91 ซึ่งส่วนใหญ่คนมีรายได้สูง ใช้กันมาก ขณะรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ใช้แก๊สโซฮอล์เป็นส่วนใหญ่ ก็มองว่าน่าจะจัดเก็บเงินจากกลุ่มนี้มาชดเชยให้กับภาคครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่ยากจนอยู่แล้ว