อ้น น้อมรับงานหด เหตุผลพวงจากคลิปฉาว
พระเอกหนุ่มหน้าใส "อ้น สราวุฒิ มาตรทอง" แจงหายหน้าหายตาไปจากละครยาวเหตุกำลังซุ่มเรียนปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เกี่ยวกับศิลปะไทย การวิเคราะห์ วิจัยและพัฒนา เผยการเรียนยากมากแต่ก็มีความสุขที่ได้ศึกษาความเป็นไทย ถึงแม้จะมีงานพิธีกรและเรียนแต่หนุ่มอ้นเผยว่าก็ยังอยากที่จะเล่นละครด้วย ยันไม่เกี่ยงบทหรือแม้กระทั่งบทพ่อตนก็ยินดีรับ หากบทนั้นเป็นบทที่ดีและคนดูสามารถจดจำตนได้ในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง รับเข้าไปอ้อนของานกับ "หน่อง อรุโณชา" ตอนนี้กำลังลุ้นว่าผู้ใหญ่จะส่งละครเรื่องไหนมาให้ประเดิม พร้อมยอมรับว่าที่งานน้อยลงเหตุผลพวงจากคลิปฉาว
ช่วงนี้ดูเหมือนหายหน้าไปจากวงการ
"คิดถึงผมหรือเปล่าครับ อยากให้คิดถึงผมมากๆ หายหน้าไปจริงๆพอเข้าใจได้อยู่ ยิ่งเทวดาสาธุจบด้วย ที่สำคัญคือผมคิดถึงทุกคน อยากเล่นละคร อยากแสดง ขณะเดียวกันก็มีอีกโลกนึงที่ผมโดดลงไปแล้ว และอยากรับผิดชอบให้ดีในการเรียนปริญญาโท วิชาที่เรียนคือนาฏศิลป์ไทย จิตรกรรม งานทุกอย่างที่เกียวกับศิลปะไทยทั้งหมด เราต้องวิเคราะห์ วิจัยต้องใช้ความรับผิดชอบสูงมาก มันยากแต่ก็เป็นเพียงส่วนนึงของชีวิตเท่านั้น แต่อีกครั้งก็ยังอยากหาละครดีๆเล่นอยู่ครับ รออยู่เหมือนกันว่าจะมีบทที่ดีเหมาะกับเรา เป็นบทที่สนุกให้คนดูได้ติดตามเมื่อไหร่"
"ตอนนี้ก็รอบทและโอกาสด้วย คนที่ยังไม่ลืมก็อาจจะถามว่าผมหายไปไหน แต่สำหรัคนไหนที่ลืมกันแล้วก็ไม่เป็นไร ก็ยังอยากจะเล่นบทดีๆให้ดูอยู่ แต่บทที่เข้ามาตอนนี้ ส่วนมากจะเป็นละครวัยรุ่นทั้งนั้นเลย ผมไม่วัยรุ่นแล้ว เราคิดถึงตอนที่เราเข้าวงการมาแรกๆเราก็ได้รับโอกาสดีๆจากทางช่องและผู้ใหญ่ ณ จุดนี้เราก็โตขึ้นแล้วก็ต้องหาบทที่ไม่เด็กแล้ว ค่อนข้างต้องใช้ความสามารถในการแสดงเพิ่มมากขึ้น เมื่อเราอยากอยู่ตรงนี้ให้น่าสนใจและมีความหมาย ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องของหน้าตาเพียงอย่างเดียว"
ถ้าผู้ใหญ่ส่งบทพ่อมาเราเกี่ยงไหม
"ผมเป็นนักแสดง อยากแสดงบทที่ดี แต่บังเอิญว่าผมหน้าใสก็เลยได้บทพระเอกใสๆ แต่ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วและหากต้องรับบทนี้และมันมีเหตุผลที่ดีสามารถอธิบายได้ ผมก็ไม่เกี่ยงนะ"
"สำหรับคำว่าเกี่ยงบท ผมว่านักแสดงทุกคนไม่เกี่ยงบทหรอกครับ เพียงแต่เราขอเลือกงานที่ดีบ้าง ให้คนดูได้จดจำพวกเราเท่านั้นเอง"
หากทางช่องติดต่อมาแล้วจะรับไว้พิจารณาไหม
"ถ้ามีผู้ใหญ่ติดต่อมาผมก็ต้องคิดดูก่อน ขอคุยขั้นที่ 2 ด้วย เราก็โตขึ้น มีผู้ใหญ่ที่นับถือ เราก็ต้องให้เกียรติผู้ใหญ่ของเราด้วย ในการช่วยคิด"
มีคนติดต่อมาแล้ว แต่บทไม่ถูกใจเราหรือเปล่า
"เหมือนเราดูเทวดาหรือเปล่า ไม่นะครับ มีคนติดต่อมาแต่อาจจะด้วยเวลาไม่ได้ หรือด้วยหลายครั้งที่ผมปฏิเสธไปทั้งที่ผมอยากทำมากแต่ข้อตกลงต่างๆยังขัดกันอยู่ เรื่องเวลาด้วยที่ผมยังติดอยู่หลายอย่าง"
เป็นเพราะติดสัญญาหรือเปล่า
"ผมไม่ได้เซ็นสัญญากับบรอดคาซท์นานแล้วครับ แต่ผู้ใหญ่ก็ยังรักและเอ็นดู ดูแลเรา"
ได้เข้าไปขอโอกาสจากผู้ใหญ่บ้างไหมว่าเราอยากเล่นละคร
"เข้าไปอ้อนกับพี่หน่อง อรุโณชามากกว่าว่า "เทวดาสาธุ" จบแล้ว เราก็อยู่มา 4 ปีแล้ว ก็เลยคุยกับพี่หน่องว่าตารางเราทำอะไรบ้างต่อ 1 สัปดาห์ เราต้องการอะไร คิดอะไรอยู่ เราไม่ได้คิดว่าต้องเป็นพระเอก แค่บอกว่าผมพร้อมสำหรับบทที่ดี ถ้าบทนั้นจะไม่ใช่พระเอกแสนดีหรือหน้าใส แต่ถ้าบทนั้นเป็นบที่ดีมีความหมายกับเรื่องแล้วทำให้คนดูได้เห็นเราในฐานะนักแสดง ผมก็อยากทำ"
ทางหายหน้าไปอาจจะมีผลพวงมากจากอดีตหรือเปล่า
"อาจจะมีส่วน ผมยอมรับ แต่ผมว่าคนเราไม่ได้จมอยู่กับตรงนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเรา คนเราก็ผิดพลาดได้ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือเรายืนขึ้นและเดินต่อและทำชีวิตตัวเองให้มันงดงามต่อไปได้ยังไง นี่คือสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่"
ถามถึงเรื่องเรียนปริญญาโท "ตอนนี้ก็ทุ่มเวลาเรียนปริญญาโทเต็มที่ ก็เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ การเรียนยากมากแต่ผมมีความสุขมากนะ มันเป็นสิ่งใหม่ในชีวิต ตื่นเต้นและครูบาอาจารย์ดีมากๆเลยครับผม"
จะใช้ในการต่อยอดอย่างไร
"ผมไม่ได้คิดว่าผมเป็นคนเก่งมาก เรียนมาเพื่อจะมาช่วยวงการ แต่ผมสนใจทางนี้ มันทำให้เราเข้าใจความเป็นไทยมากขึ้นและซาบซึ้งกับมันมากขึ้น"
วางแผนไหมว่าอนาคตจะนำไปใช้อย่างไร
"ไม่วางแผนอะไรขนาดนั้น นอกจากที่เป็นนักแสดงแล้วเราก็มีฝันอยากทำอย่างอื่นด้วย ผมอยากทำงานในพิพิธภันฑ์ ซึ่งผมแอบไปสมัครไว้แล้ว ผมอยากทำงานด้านศิลปะไทย เมื่อเรียนจบ 2 ปีแล้ว น่าจะตอบได้อีกทีว่าอะไรที่จะสามารถดูแลต่อไปได้ คิดว่าความสัมคัญของวัฒนธรรมไทย คือการจัดการเรื่องวัฒนธรรมมากกว่า"