หลวงพ่อคูณโต้ตอบดีฉันอาหารทางสายยางได้

อาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังจากได้รับการผ่าตัดบริเวณผิวหนังหน้าท้อง เพื่อทำการเชื่อมต่อสายยางไปยังกระเพาะอาหารโดยตรง เมื่อวานนี้ ว่าสุด หลวงพ่อคูณ ยังคงพักฟื้นอยู่ภายในห้องผู้ป่วยตึกวิบูลย์ลักษ์ ชั้น 2 ขณะที่ นายอนันต์ ลูกศิษย์ผู้ดูแลใกล้ชิด หลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า เช้านี้ได้ทำการเช็ดตัวให้ หลวงพ่อคูณ โดยในคืนที่ผ่านมา หลวงพ่อคูณ อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยสามารถจำวัดได้นานขึ้น ตื่นไม่บ่อย

ขณะที่ทีมแพทย์และพยาบาล ได้สลับกันเข้ามาตรวจดูอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่ง หลวงพ่อคูณ ก็รู้สึกตัวดี สามารถโต้ตอบได้มากขึ้น อีกทั้งยังสามารถจดจำ และเรียกชื่อลูกศิษย์ที่เข้ามาดูแลได้อย่างถูกต้องทุกคน โดยหลังจากนี้อีกประมาณ 1 ชั่วโมง หากคณะแพทย์ตรวจแล้วไม่พบอาการติดเชื้อจากแผลผ่าตัด หลวงพ่อคูณ ก็จะสามารถกลับมาฉันอาหารเหลวทางสายยางได้มื้อแรก หลังจากแพทย์ได้สั่งงดตั้งแต่คืนวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา

คืบหน้าอาการอาพาธของ หลวงพ่อคูณ แพทย์ได้ถวายอาหารเช้า ซึ่งเป็นมื้อแรก หลังจากได้รับการผ่าตัดเพื่อเชื่อมต่อสายยางไปยังกระเพาะอาหาร โดยล่าสุดนั้น หลวงพ่อคูณ ได้เริ่มฉันอาหารที่ประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย อาทิ ข้าวบดและน้ำหวาน ทางสายยาง ในเวลาประมาณ 08.45 น.

ขณะที่ นายภุชงค์ จันทวิทย์ อดีตข้าราชการแผนกจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร ซึ่งเคยเป็นทีมงานจัดทำหนังสือเนื่องในโอกาสที่ หลวงพ่อคูณ มีอายุครบ 80 ปี กล่าวในระหว่างที่นั่งติดตามอาการของ หลวงพ่อคูณ บริเวณหน้าห้องพักผู้ป่วยว่า หลวงพ่อคูณ เป็นพระที่มีเมตตาจิตสูงมาก รวมทั้งยังได้สร้างประโยชน์ให้สังคม โดยเห็นได้จากการนำเงินที่ประชาชนนำมาบริจาคไปจัดสร้างสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นสาธารณประโยชน์แก่ประเทศชาติ จึงอยากให้ หลวงพ่อคูณ หายจากอาการอาพาธโดยเร็ว และอยู่เป็นที่สักการะของประชาชนต่อไป

ด้าน ศ.คลินิก น.พ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวภายหลังเข้าตรวจเยี่ยมอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ โดยกล่าวว่า คณะแพทย์ได้ประชุมและติดตามผลการรักษา หลวงพ่อคูณ อย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยล่าสุดเช้าวันนี้ หลวงพ่อคูณ มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส รู้สึกตัว และโต้ตอบได้ดี ส่วนอาหารที่จัดถวาย หลวงพ่อคูณ นั้น ทางคณะแพทย์ ได้นำอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน โดยลดความเค็มและความหวานลง เพื่อให้เหมาะสมกับตามหลักโภชนาการ และโรคประจำตัวพื้นฐานของ หลวงพ่อคูณ

ส่วนแผนการรักษาขั้นต่อไป คณะแพทย์จะตรวจประเมินในเรื่องของการกลืนอาหาร ว่า หลวงพ่อคูณ จะสามารถกับมากลืนอาหารทางปากได้อีกหรือไม่ รวมทั้งทีมแพทย์ที่โรงพยาบาล ก็จะประสานกับทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ในการรักษาโรคประจำตัว อาทิ โรคเบาหวาน และโรคต่างๆ ให้กับ หลวงพ่อคูณ โดยจะมีการพิจารณาเพื่อนิมนต์ หลวงพ่อคูณ กับไปพักฟื้นที่ จ.นครราชสีมา อีกครั้งในสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ น.พ.ธีระวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า หาก หลวงพ่อคูณ สามารถลุกนั่งได้ โดยไม่เจ็บแผล ก็จะนิมนต์ หลวงพ่อคูณ นั่งรถเข็น เพื่อให้ หลวงพ่อคูณ ได้ปรับเปลี่ยนอิริยาบถอีกด้วย


โรงพยาบาลศิริราช ได้รายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ฉบับที่ 3 อย่างเป็นทางการ โดยมีใจความว่า หลวงพ่อคูณ รู้สึกตัวดี มีสัญญาณชีพปกติ พูดคุยโต้ตอบได้ดี เนื่องจากไม่มีสายยางให้อาหารทางจมูกรบกวนเช่นเดิม รู้สึกระคายบาดแผลที่หน้าท้องบ้าง แต่ก็ไม่เจ็บปวด รวมทั้งในช่วงที่รับมอบดอกไม้จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หลวงพ่อคูณ มีสีหน้าที่สดใส และสามารถกล่าวถึงถวายพระพรได้ แต่เสียงยังอยู่ในลำคอ เนื่องจากเพิ่งฟื้นตัวจากยาชา ขณะที่บรรยากาศภายในห้องพักผู้ป่วย ล่าสุด หลวงพ่อคูณ ได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ และอยู่ในระหว่างสนทนากับลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด

ขณะนั้น น.พ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล แพทย์เจ้าของไข้ ได้ถาม หลวงพ่อคูณ ว่า รู้สึกเป็นอย่างไร หลวงพ่อคูณ ตอบ
ว่า สบายดี ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงกูดอก ซึ่งเป็นภาษาของชาว จ.นครราชสีมา จากนั้น น.พ.นิธิพัฒน์ ยังกล่าวกับ
หลวงพ่อคูณ ว่า หากหายดีแล้ว จะพาไปลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น หลวงพ่อคูณ
ได้พยักหน้า เพื่อแสดงอาการรับรู้