ธนวรรธน์ชี้คืนภาษีรถคันแรกกระตุ้นยอดผลิต
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การคืนภาษีให้กับรถยนต์คันแรก เชื่อว่า จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วนถึงแม้ว่าร้านจะต้องใช้วงเงินในการชดเชยภาษีประมาณ 9,000-30,000 ล้านบาท แต่การที่นโยบายดังกล่าวเป็นมาตรการชั่วคราว เพียง 15 เดือน ไม่น่ามีผลกระทบต่อภาระงบประมาณมากนัก เพราะรัฐจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีนิติบุคคลกลับมาประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อแลกกับเสถียรภาพทางการเมือง ที่รัฐบาลสามารถทำได้ ตามที่หาเสียงไว้ และประชาชนสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์คันแรกได้ ในราคาไม่แพง อีกทั้งยังเป็นการช่วยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมยานยนต์ มีการเติบโตโดยคาดว่ายอดการผลิตรถยนต์ในปีหน้า จะมากกว่า 2 ล้านคัน จากที่ตั้งเป้าไว้ ส่วนการส่งออกจะเป็นอย่างไรนั้นจะต้องประเมินภาวะเศรษฐกิจโลก ในปีหน้าอีกครั้ง
ส่วนการที่คณะรัฐมนตรี ขยายมาตรการลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ออกไปถึงสิ้นปีนี้นั้น มองว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้ราคาน้ำมันในประเทศไม่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งหากรัฐบาลปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจโลก ยังมีปัญหาอาจส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อให้ปรับตัวสูงขึ้น และจะเป็นแรงกดดันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
อย่างไรก็ตาม มองว่า จะเป็นผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 และจะทำให้เศรษฐกิจในปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 4 ได้ ทั้งนี้ หากภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวขึ้น รัฐบาลก็สามารถกลับมาจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลได้ โดยอาจเป็นทยอยปรับขึ้น 1-2 บาทต่อไตรมาส โดยปรับได้ตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีหน้าเป็นต้นไป