นศ.สาวหายตัว จ่อเรียกคนใกล้ชิดสอบ

จากกรณีนักศึกษาสาวหายตัวลึกลับ ล่าสุดกองปราบปราม เตรียมเชิญเสี่ยรับเหมาถมดินที่มาติดพันเข้าสอบปากคำ 

วันนี้ (15 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี น.ส.ปรัชฎา แต้มพรมรินทร์ หรือ กุ๊กไก่ อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง หายตัวไปพร้อมรถยนต์เบนซ์ รุ่น อี200 สีดำ ทะเบียน ฎษ 9119 กทม.แต่ยังติดป้ายแดง ที่นางพรนภา นิลพาย อายุ 47 ปี และ น.ส.ขนิษฐา แต้มพรมรินทร์ อายุ 18 ปี มารดาและน้องสาวของ น.ส.ปรัชฎา  เข้าแจ้งความไว้ ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่าคดีนี้ยังคงเป็นแค่การสืบสวนบุคคลที่หายตัวไป

ทั้งนี้จากการสอบสวน น.ส.ขนิษฐาให้การว่า พี่สาวพักอาศัยอยู่เพียงลำพังที่ห้องพักเลขที่ 611 อาคารเอช ดิไอริส คอนโดมิเนียม ย่านศรีนครินทร์ โดยก่อนหน้านี้ทราบว่าพี่สาวคบหากับเสี่ยรับเหมาถมดินคนหนึ่ง พี่สาวเคยพาเสี่ยมาให้รู้จัก และกินข้าวด้วยกัน 2-3 ครั้ง และยังทราบว่าห้องพักและรถเบนซ์ป้ายแดงนั้นเสี่ยเป็นคนจ่ายเงินให้ ระหว่างที่ทั้งคู่คบหากันก็มีปากเสียงกันบ้างเป็นครั้งคราว พี่สาวเคยบอกไว้ว่าหากติดต่อไม่ได้ภายใน 3 วัน ให้ไปหาที่ห้องพักคอนโดฯ

จนเมื่อวันที่ 19 ส.ค. พี่สาวโทรศัพท์มาหา บอกว่าจะออกไปกินข้าวกับเสี่ย ผ่านไปหลายชั่วโมงจึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อถามว่ากลับถึงที่พักแล้วหรือยัง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงตัดสินใจเดินทางไปหาที่คอนโดฯ พบว่าห้องล็อก เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำคอนโดฯ ทราบว่าพี่สาวไม่ได้กลับเข้าห้องพักมาเป็นเวลา 3 วันแล้ว จึงโทรศัพท์หาเสี่ย แต่เสี่ยบอกว่าไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้พบกัน ผ่านไปหลายวันก็ยังติดต่อพี่สาวไม่ได้ จึงไปแจ้งความคนหายที่ สน. ประเวศ เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจได้ติดต่อเสี่ยคนดังกล่าวมาให้ข้อมูล แต่เสี่ยอ้างว่าไม่สบาย และติดธุระส่วนตัว

ด้านนางพรนภาให้การว่า มีลูกสาว 2 คน น.ส.ปรัชฎาเป็นลูกคนโต ทราบเพียงว่าลูกคบหากับเสี่ย แต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง หลังเกิดเรื่องกับลูกสาวก็ได้พบกับเสี่ยคนนี้ครั้งหนึ่ง แต่เมื่อพบกันเขาก็พูดแต่เรื่องรถเบนซ์ ไม่ได้พูดถึงลูกสาว จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบชะตากรรมว่าเป็นอย่างไร จึงเดินทางมาร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามให้ช่วยสืบสวนติดตามอีกทางหนึ่ง

พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.สืบสวนติดตามผู้ต้องสงสัยกรณีนี้ รวมทั้งได้เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำคอนโดมิเนียมแห่งนี้ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังในช่วงก่อนเกิดเหตุ แต่ไม่พบว่าเสี่ยผู้ต้องสงสัยรายนี้เคยมาหา น.ส.ปรัชฎา ที่ห้องพักแต่อย่างใด ส่วนพื้นที่บริเวณศูนย์ราชการ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่พบข้อมูลว่า น.ส.ปรัชฎา ปรากฎตัว เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ โรงแรม ส่วนราชการในบริเวณดังกล่าว เพื่อขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้นำรถปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน สฮ 718 กรุงเทพมหานคร ของเสี่ยผู้ต้องสงสัยมาตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาร่องรอยและหลักฐานที่เกี่ยวกับ น.ส.ปรัชฎา