บุ๋ม สุดปลื้ม! แฟนๆชาวพม่ายกให้เป็นซุปตาร์
ดังเปรี้ยงปร้างข้ามประเทศ แถมไปสร้างชื่อเสียงที่พม่ามากว่า 3 ปีแล้ว สำหรับสาวเก่ง "บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" เจ้าตัวเผยว่าแฟนๆชาวพม่าให้การต้อนรับและยกให้เป็นเหมือนซุปตาร์คนนึง เพราะด้วยรูปร่างเนื้อนมไข่และหน้าตาที่ดุโดนใจแบบพิมพ์นิยม ฟุ้งตอนนี้งานชุกมากทั้ง ทั้งถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบปฏิทินปีใหม่ ซึ่งทุกอย่างต้องเป๊ะ กว่าจะได้งานออกมาแต่ละชิ้นต้องทำเรื่องส่งให้รัฐบาลพม่าพิจารณาก่อน ถือว่าเคร่งมาก ที่ตนเลือกมาทำตลาดที่นี่เพราะมีช่องทางในการทำงานมากกว่า แม้จะติดขัดเรื่องภาษาบ้างแต่ก็ถือว่าทุกอย่างราบรื่นดี เปรยเดือนหน้าต้องบินกลับไปถ่ายโฆษณาที่นั่นอีก 1 ชิ้น แย้มแฟนหนุ่ม "ติ๊งโน้ต" อาจตามไปเฝ้าด้วยหากไม่ติดแข่งรถ
ตอนนี้ไปโด่งดังเป็นซุปตาร์ที่ประเทศพม่า
"เพิ่งมาดังตอนอายุเยอะ ก็ถือว่าเป็นจุดนึงที่เรามองว่าเป็นภาพของคนไทยที่สามารถไปทำตลาดและสร้างชื่อเสียงที่นู่น เพราะที่พม่าไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆจะเข้าไปทำงานกันง่ายๆ ภาพทุกอย่างที่ทำต้องผ่านรัฐบาลพม่า กว่าจะออกมาเป็นภาพได้ทุกอย่างต้องมีเอกสารเยอะแยะมากมาย พอเราเป็นที่รู้จักคนคนที่นู่น เวลามาถึงสนามบินก็มีคนมาถ่ายรูป ต้อนรับ มีรายการทีวีมาดักรอ"
เราเริ่มต้นไปทำงานที่นั่นได้อย่างไร
"ตอนแรกไปโชว์ตัวคะ ฝึกพูดภาษาพม่านิดหน่อย จากนั้นก็มีงานอื่นๆเข้ามาเรื่อยๆ เขาบอกว่าชอบสาวหุ่นแบบพี่ อย่างสาวพม่าที่ถ่ายแบบหุ่นเหมือนบ้านเราไม่มีนะ สูงๆ ผอมๆ แอ๊บแบ๊ว ไม่ได้เลยคะ ที่นู่นต้องนั่งหน้านิ่ง ยิ้มมุมปาก เชิดๆ สง่าๆ แล้วเขาก็เห็นพี่จากละครที่พี่เคยเล่นเป็นเจ้านางพม่า พอไปถ่ายแบบแล้วเป็นหุ่นสไตล์ที่เขาชอบ อกเป็นอก เอวเป็นเอว เขาก็ชอบ หน้าตาดุๆ เขาก็เลยชอบเป็นพิเศษ"
เรียกว่าที่พม่าเรากินขาดเลยใช่ไหม
"ถ้าแถบพม่า ตอนนี้ก็ถือว่าโอเค เราก็พอสู้ได้"
ได้ไปทำงานกี่ปีแล้ว
"ปีที่ 3 แล้วคะ ก็มีงานเพิ่มมากขึ้น ทั้งโฆษณาสินค้าที่เป็นแบรนด์ของเขา ก็เลยต้องอยู่ที่นั่นยาวเลยคะ ประมาณเดือนหน้าบุ๋มต้องกลับไปถ่ายโฆษณานาฬิกาอีกตัวนึง"
เห็นว่าที่เพิ่งไปก็ไปถ่ายปฏิทินกับน้องโจอี้
"ใช่คะ เขาบอกว่าต้องถ่ายกับนางเอกพม่าอีก 2 คน ซึ่ง 2 คนนั้นสวยมาก ผิวขาวจั๊วะเลย เราก็มองน้องสาวไทยคนไหนที่สวยที่สามารถไปยืนประชันกับเขาได้ ที่เลือกโจอี้เพราะหน้าเขาหวาน สวย คม ด้วยความที่สูงโปร่งอยู่แล้ว ยิ้มหวาน เราอยากให้นำเสนอรอยยิ้มที่หวานของคนไทย น้องโจอี้เลยเป็นหนึ่งในใจของบุ๋ม อีกอย่างนึงคือไปทำงานที่นั่นไม่ได้สะดวกสบายเหมือนที่เมืองไทย ทั้งเรื่องของภาษา ก็เลยต้องหาคนที่นิสัยดีๆไม่งอแง"
ในการโพสต์ท่าถ่ายปฏิทิน เห็นบอกว่ายากมาก
"ใช่คะ เขาไม่บอกอะไรเลยคะ ด้วยทีมงาน ช่างภาพ ก็คนละภาษากัน พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ คือเราก็ต้องโพสต์ท่าเอง ลุยเอง เหมือนกึ่งแสดงเอง แต่ชุดแต่งงานที่ใส่เราก็ต้องระมัดระวังเพราะราคาสูงถึง 6 ล้านบาท"
"ตอนนี้ภาพก็อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาจากรัฐบาลพม่า ทุกอย่างต้องเป็นขั้นตอนหมด ขนาดสีผมของพี่ไม่ได้ทองมาก เขาก็ยังไปย้อมดำให้ เคร่งมาก ชุดปิดมิดชิดเรียบร้อยมาก แต่ก็เห็นว่าเป็นรูปร่างเท่านั้นเอง"
ที่ประเทศพม่ารายได้ดีกว่าที่เมืองไทยไหม
"พอๆกัน แต่ช่องทางเยอะกว่า หน้าตาคนไทยหล่อ สวยกว่าเยอะ แต่ปัญหาคือเรื่องของภาษา"
จะมีการศึกษาภาษาพม่าเพิ่มเติมไหม
"ก็จะค่อยๆศึกษาตามงานมากกว่า เพราะทีมงานส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ คิดดูว่าดังไม่ดังเราสามารถเลือกเฮ้าส์ได้ว่าจะถ่ายกับที่นี่หรือจะไปถ่ายกับที่อื่น พี่ก็เลยเลือกทีมงานจากเมืองไทย เพราะอยากให้เอารายได้เข้าสู่เมืองไทย และทำงานง่ายกว่าด้วย"
มีปัญหาเรื่องอาหารการกินบ้างไหม
"ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องอาหาร ที่นั่นมีอาหารนานาชาติให้เลือกเยอะมาก เพียงแต่ติดปัญหาเรื่องของภาษาซะมากกว่า และไม่มีโทรศัพท์มือถือให้ใช้ อินเทอร์เน็ตก็ต่อยากมาก ซึ่ง 4 วันที่บุ๋มหายไปเนี่ย ติดต่อใครไม่ได้เลย"
แล้วติ๊งโน้ตล่ะ
"บินตามไป เขาก็ถามว่าทำไมปีนี้ถ่ายนานกว่าปีก่อน แล้วอยู่ตั้ง 4 วัน ติดต่อก็ไม่ได้ เขาก็เลยบินตามไปคะ"
ช่วงที่ติดต่อกันไม่ได้ เราอึดอัดไหม
"ไม่อึกอัดเพราะเขาตามไปทันที"
เดือนหน้าต้องกลับไปถ่ายอีก แล้วติ๊งโน้ตจะตามไปด้วยไหม
"ต้องดูก่อนคะว่าติดวันแข่งเขาหรือเปล่า เพราะเดือนหน้าแข่งเยอะ ถ้าไม่ติดก็คงตามไป"
ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดไหม
"ตลอดคะ เมื่อวานพ่อเขายังแซวเลยว่า เดี๋ยวนี้ตามแต่บุ๋มนะ (หัวเราะ)"
อึดอัดไหมที่ติ๊งโน้ตตามตลอด
"ไม่คะ เพราะที่ผ่านมาพี่โดนเป็นข่าวง่าย มีงานนึงเราไปงานแล้วติ๊งโน้ตไม่ได้ไปด้วย ผลปรากฏว่ากลับบ้านแล้วก็มีคนแมสเสจมาหา เขาไปหาเบอร์มานะ พี่ไม่ได้ให้เบอร์เขาไป พี่ก็ให้ติ๊งโน้ตดูว่าพี่ไม่ได้ตอบอะไรไปนะ มีเขาไปด้วยแล้วอุ่นใจ ไม่มีข่าว พี่ก็ทำงานได้อย่างสบายใจ หลังจากวันนั้นที่ไม่ได้ไป ติ๊งโน้ตก็เลยตามตลอดคะ"
แสดงว่าเขาก็ค่อนข้างที่จะหวงเราพอสมควร
"ก็หวงเท่ากันนะค่ะ"
สำหรับเพื่อนผู้ชายเราก็คุยกันน้อยลงไหม
"ไม่คะ บุ๋มมีเพื่อนผู้ชายสมัยเรียน ก็จะพาติ๊งโน้ตไปเจอเลยว่าเขาคือใคร สบายใจกว่า"
แสดงว่าตอนนี้ห้ามหนุ่มๆเข้ามาเลยใช่ไหม
"ถ้าขอเบอร์ทำงานก็ได้คะ แต่ถ้าคุยเรื่องส่วนตัวก็ไม่"
เราสแกนติ๊งโน้ตบ้างไหม
"จะเหลือเหรอ เราคบกันมาปีนึงแล้ว เราสามารถวางมือถือไว้ด้วยกันได้ ใครโทรมาก็จะรู้ หลังๆก็ไม่ต้องเช็คแล้วคะ ไว้ใจกันมากกว่า"
เวลาเขาไปแข่ง เราไปเฝ้าไหม
"ไปบ้างคะ เชื่อไหมว่าล่าสุดพิตตี้ยังต้องหนีอ่ะ พอพี่เดินไปสนามแหวก พิตตี้หายหมดเลย ตัวแม่มา (หัวเราะ) ส่วนใหญ่น้องพิตตี้จะเกรงใจมากกว่า"
วางแผนที่จะมีน้องให้อันดามันไหม
"คือพี่มีแล้วไง งานพี่ก็เยอะด้วย มันยากด้วย ปีหน้าก็ติดต่อถ่ายชุดว่ายน้ำไว้แล้ว เรื่องมีน้องเนี่ยไม่ได้เลย ติ๊งโน้ตเขาก็อยากมี อยากแต่งงาน ซึ่งเขาขอแต่งงานตั้งแต่เดือนแรกที่คบแล้ว (หัวเราะ) ติดอยู่ที่คุณพ่อบุ๋มอย่างเดียว ท่านบอกว่าคบแบบนี้ไปเรื่อยๆก็ดีแล้ว ท่านอาจจะเห็นว่าติ๊งโน้ตอายุน้อย จะดูแลรับผิดชอบเราได้ยังไง เขาอยากให้ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ติ๊งโน้ตมากกว่าคะ"