เนสาดถล่มฟิลิปปินส์เสียชีวิตแล้ว31ราย
ศูนย์บริหารและลดความเสี่ยงภัยจากภัยพิบัติแห่งฟิลิปปินส์ (National Disaster Risk Reduction and Management Council : NDRRMC) เผยว่า อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเนสาดที่เคลื่อนตัวออกจากตอนเหนือ
ของประเทศฟิลิปปินส์ และ มุ่งหน้าสู่ทางตอนใต้ของจีน เมื่อช่วงค่ำวานนี้(28) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว
อย่างน้อย 31 ราย ประชาชนกว่า 60,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย บ้านเรือนเสียหาย 993 หลัง
และหลายพื้นที่ยังคงไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเนสาด ที่พัดถล่มพื้นที่ตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ตั้งแต่เช้ามืดวันอังคาร ส่งผลให้ เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ทั้งยังก่อให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มกินพื้นที่เป็นวงกว้าง โดยส่วนใหญ่ของผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่เกาะลูซอน เขตกอร์ดีเยรา และ ในเขตเมืองหลวงของประเทศ
สภาพล่าสุดของกรุงมะนิลา ยังคงมีปริมาณท่วมสูง บ้านเรือนประชาชน รวมถึงร้านค้าต่างๆ ได้รับความเสียหาย ต้นไม้หักโค่น อ่าวมะนิลายังคงมีคลื่นลมแรง ส่วนในภาคเหนือ เขตเทือกเขา ถนน 61 สายต้องถูกตัดขาด เนื่องจากดินสไลด์ปิดเส้นทาง และ น้ำท่วม
ด้าน กระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ รายงานว่า ไต้ฝุ่นเนสาด ซึ่งทำให้พื้นที่เพาะปลูกหลายแห่งทางตอนเหนือของ
ฟิลิปปินส์ ต้องจมอยู่ใต้น้ำ ได้สร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตร คิดเป็นมูลค่า 729.18 ล้านเปโซ หรือ 16.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยพบว่า ผลผลิตข้าวประมาณ 39,175 ตัน ข้าวโพด 6,322 ตัน และผัก 110 ตัน ได้รับความเสียหายจากพายุลูกดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ความเสียหายเบื้องต้นของผลผลิตข้าว 39,175 ตันนั้น คิดเป็นเพียง 0.6 % ของผลผลิตข้าว 6.5 ล้านตัน ที่ฟิลิปปินส์คาดว่าจะผลิตได้ในไตรมาส 4 ของปีนี้ พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจว่า แม้ภาคการผลิตข้าวได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากไต้ฝุ่นหลายลูกที่พัดถล่มประเทศ แต่เขาเชื่อว่าฟิลิปปินส์ จะยังสามารถบรรลุเป้าหมายการผลิตข้าวเปลือกสำหรับตลอดทั้งปีนี้ที่ 17.29 ล้านตัน
รมว.เกษตรกล่าวด้วยว่า เกษตรกรจะได้รับเมล็ดพันธุ์พืชจากรัฐบาลเพื่อนำไปเพาะปลูกใหม่และชดเชยพืชผลที่สูญเสียไป
ของประเทศฟิลิปปินส์ และ มุ่งหน้าสู่ทางตอนใต้ของจีน เมื่อช่วงค่ำวานนี้(28) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว
อย่างน้อย 31 ราย ประชาชนกว่า 60,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย บ้านเรือนเสียหาย 993 หลัง
และหลายพื้นที่ยังคงไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเนสาด ที่พัดถล่มพื้นที่ตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ตั้งแต่เช้ามืดวันอังคาร ส่งผลให้ เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ทั้งยังก่อให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มกินพื้นที่เป็นวงกว้าง โดยส่วนใหญ่ของผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่เกาะลูซอน เขตกอร์ดีเยรา และ ในเขตเมืองหลวงของประเทศ
สภาพล่าสุดของกรุงมะนิลา ยังคงมีปริมาณท่วมสูง บ้านเรือนประชาชน รวมถึงร้านค้าต่างๆ ได้รับความเสียหาย ต้นไม้หักโค่น อ่าวมะนิลายังคงมีคลื่นลมแรง ส่วนในภาคเหนือ เขตเทือกเขา ถนน 61 สายต้องถูกตัดขาด เนื่องจากดินสไลด์ปิดเส้นทาง และ น้ำท่วม
ด้าน กระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ รายงานว่า ไต้ฝุ่นเนสาด ซึ่งทำให้พื้นที่เพาะปลูกหลายแห่งทางตอนเหนือของ
ฟิลิปปินส์ ต้องจมอยู่ใต้น้ำ ได้สร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตร คิดเป็นมูลค่า 729.18 ล้านเปโซ หรือ 16.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยพบว่า ผลผลิตข้าวประมาณ 39,175 ตัน ข้าวโพด 6,322 ตัน และผัก 110 ตัน ได้รับความเสียหายจากพายุลูกดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ความเสียหายเบื้องต้นของผลผลิตข้าว 39,175 ตันนั้น คิดเป็นเพียง 0.6 % ของผลผลิตข้าว 6.5 ล้านตัน ที่ฟิลิปปินส์คาดว่าจะผลิตได้ในไตรมาส 4 ของปีนี้ พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจว่า แม้ภาคการผลิตข้าวได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากไต้ฝุ่นหลายลูกที่พัดถล่มประเทศ แต่เขาเชื่อว่าฟิลิปปินส์ จะยังสามารถบรรลุเป้าหมายการผลิตข้าวเปลือกสำหรับตลอดทั้งปีนี้ที่ 17.29 ล้านตัน
รมว.เกษตรกล่าวด้วยว่า เกษตรกรจะได้รับเมล็ดพันธุ์พืชจากรัฐบาลเพื่อนำไปเพาะปลูกใหม่และชดเชยพืชผลที่สูญเสียไป