ฮอร์ นัมฮงเผยไทย-กัมพูชาเห็นพ้องถอนหทาร

ฮอร์ นัมฮงเผยไทย-กัมพูชาเห็นพ้องถอนหทาร

ฮอร์ นัมฮงเผยไทย-กัมพูชาเห็นพ้องถอนหทาร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ เผยเอกสารจากกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เพื่อเผยแพร่ถ้อยแถลงของ นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ในการพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เลขาธิการสหประชาชาติ
และสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า ในนามของกัมพูชา ขอแสดงความขอบคุณต่อ นายบัน กีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือคลี่คลาย
ปัญหากัมพูชา - ไทย ในช่วงที่ผ่าน และขอขอบคุณต่อความพยายามอย่างสูง นอกจากนี้ ยังได้กล่าวขอบคุณอย่างสูงต่ออินโดนีเซีย โดยเฉพาะ นายมาร์ตี นาตาเลกาวา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ที่ได้ใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อช่วยประเทศกัมพูชาและไทย หาช่องทางแก้ปัญหาโดยสันติวิธี

นอกจากนี้ นายฮอร์ นำฮง ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดน ว่า หลังจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ได้ออกมาตรการชั่วคราว สถานการณ์ตามแนวชายแดนก็กลับมามีสันติภาพอีกครั้ง ไม่มีการยิงปะทะกันอีก และเพื่อ
เป็นการปฏิบัติตามมาตรการชั่วคราว ซึ่งกัมพูชาได้เตรียมพร้อมสำหรับการถอนทหารออกจากเขตปลอดทหารแล้ว คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา (GBC) ซึ่งนำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของ 2 ประเทศ จะมีการพบหารือกันในระยะเวลาอันใกล้ เพื่อกำหนดช่วงเวลาสำหรับการถอนทหาร ความจริงคือ การถอนทหารออกจากเขตปลอดทหาร ตามมาตรการชั่วคราวของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ จะต้องมีผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซีย อยู่ในพื้นที่ด้วย เพื่อสังเกตการณ์และยืนยัน


โดยเรื่องนี้เป็นประเด็นที่สำคัญมาก เนื่องจากการถอนทหารต้องกระทำพร้อมกันและโปร่งใส และกัมพูชาทราบว่า คณะผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซีย (IOT) ได้เตรียมพร้อมมาระยะหนึ่งแล้ว สำหรับการส่งไปประจำการในที่ตั้งระหว่าง
รอการถอนทหารออกจากเขตปลอดทหาร ทางกัมพูชาได้ถอนทหารออกจากที่ตั้งรอบเขตปลอดทหาร เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการแก้ปัญหาพรมแดนกัมพูชา - ไทย โดยสันติวิธี นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการชายแดนร่วมไทย - กัมพูชา (JBC) ก็จะมีประชุมในอนาคต เพื่อกำหนดเขตแดนระหว่างสองประเทศในพื้นที่อื่นๆ

พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้กล่าวกับที่ประชุมถึงการเดินทางเยือนกัมพูชาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า 2 ฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันที่จะให้มีความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกด้าน เพื่อเป็นผลประโยชน์แก่กัน นอกจากนี้ ปัจจุบัน ปัญหาที่ยังค้างคาอยู่คือ การตีความคำตัดสิน พ.ศ.2505 ของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ตามคำเสนอของกัมพูชา กรณีประเทศไทยอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ใกล้ปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ขณะนี้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ รอคำแก้คำฟ้องจากประเทศไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา กล่าวในตอนท้ายว่า กัมพูชาเชื่อว่า การมีรัฐบาลใหม่ที่ประเทศไทยปัญหาเผชิญหน้า 2 ฝ่าย รวมถึงปัญหาพรมแดนระหว่าง 2 ประเทศ จะได้รับการแก้ไขโดยสันติวิธี และมิตรภาพ
เพื่อรับใช้ผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ในจิตวิญญาณของการเป็นประเทศข้างเคียงที่ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook