วัดไชยฯ กรุงเก่า พนังกั้นพัง น้ำท่วม 1 เมตร

วัดไชยฯ กรุงเก่า พนังกั้นพัง น้ำท่วม 1 เมตร

วัดไชยฯ กรุงเก่า พนังกั้นพัง น้ำท่วม 1 เมตร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(4 ต.ค.) นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. แนวพนังกั้นน้ำบริเวณวัดไชยวัฒนาราม วัดเก่าแก่สมัยอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดพังลง ส่งผลให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าท่วม สิ่งปลูกสร้างภายในวัด รวมทั้งโบราณสถานและองค์เจดีย์บางส่วน และบ้านเรือนใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว มีความสูงประมาณ 1 เมตร ทั้งนี้ ผู้ว่าฯอยุธยา ยืนยันว่า จะเร่งสูบน้ำออกและเสริมแนวคันดินด้านหน้าวัด และซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่เสียหายบริเวณด้านข้างวัดให้เสร็จก่อน 18.00 น. วันนี้

ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน แนวคันกั้นน้ำรอบ วัดสะแก ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นคันดินสูง 2 เมตร หน้าวัดติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา สาเหตุจากฝนตกตลอดทั้งคืน ทำให้คันดินอ่อนตัวประจวบกับลูกคลื่นจากเรือบรรทุก ที่วิ่งส่งสินค้าตลอดคืน ทำให้ลูกคลื่นน้ำแรง ตีแนวคันดินพังลงไปน้ำทะลักเข้า ท่วมในรอบวัดสูงกว่า 1 เมตร และสิ่งของภายในวัด

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ภาคเหนือ ฝนที่ยังตกหนักบนดอยขุนแม่วางทำให้น้ำป่าไหลเข้าท่วมตำบลทุ่งรวงทองและตำบลบ้านกาด อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ บ้านเรือนกว่า 500 หลัง พื้นที่การเกษตรกว่า 3,000 ไร่จมอยู่ใต้ นอกจากนี้กระแสน้ำที่ไหลแรงยังกัดเซาะสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านได้รับความเสียหาย

ขณะที่เทศบาลเมืองพิจิตรเร่งติดเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 10 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากเขตเทศบาล หลังฝนที่ตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมขังชุมชน และถนนสายหลักหลายสายสูงกว่า 30 เซนติเมตร เช่นเดียวกับจังหวัดนครสวรรค์ที่ยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะชาวชุมชนเกาะยมที่ต้องขึ้นไปสร้างเพิงพักอยู่บนหลังคาบ้าน หลังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมสูงกว่า 4 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่เตือนประชาชนให้เตรียมรับมวลน้ำเหนือก้อนใหม่ที่กำลังจะไหลมาถึงภายในสัปดาห์นี้

ความคืบหน้าการนำหินทำเป็นคันชะลอน้ำที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ใช้รถแบ็กโฮเร่งวางหินแทนการใช้กำลังทหาร เพื่อให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน

ขณะที่ระดับน้ำแม่น้ำป่าสักที่เพิ่มสูงขึ้นประกอบกับกระแสน้ำที่พัดแรงทำให้พนังกั้นพังและไหลทะลักเข้าหมู่ 2 ตำบลบ่อโพง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านต้องเร่งขนของขึ้นที่สูงเพื่อหนีน้ำ รวมถึงถนนในอำเภอบางบาลมุ่งหน้าไปอำเภอผักไห่ น้ำท่วมสูง ทั้งรถเล็กและรถใหญ่ไม่สามารถผ่านไปได้

ชาวบ้านตำบลบ้านเบิก อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ยังคงต้องใช้ถนนลพบุรี-ท่าวุ้งพักอาศัยในยามค่ำคืน ท่ามกลางความมืดมิด เพราะไม่มีกระแสไฟฟ้า และยังมีอันตรายจากรถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็ว หลังจากถูกน้ำที่ทะลักมาจากประตูระบายน้ำบางโฉมศรีพัง ไหลเข้าท่วมบ้านอย่างกะทันหัน ทำให้ชาวบ้านตั้งตัวไม่ทัน นอกจากนี้ยังมีบางหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดจากถนนเส้นนี้ ต้องใช้เรือในการเดินทาง

ส่วนปริมาณในเขื่อนบริเวณภาคเหนือหลายแห่งอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง อย่างที่เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำถึงร้อยละ 99 ของความจุอ่าง ขณะที่มีปริมาณไหลเข้าอ่างวันละ 78.91 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีการระบายน้ำออกท้ายเขื่อนที่วันละ 60.06 ล้านลูกบาศก์เมตร

ส่วนที่เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 94 ของความจุอ่าง สามารถกักเก็บได้อีก 768 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) อยู่ที่ 117.69 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่า หากยังมีฝนตกที่ด้านเหนืออ่างอยู่ อีกไม่เกิน 10 วัน ปริมาณน้ำจะมากเกินกว่าความจุอ่าง

ขณะที่เขื่อนหลายแห่งมีปริมาณน้ำล้นเขื่อนแล้ว โดยที่ภาคเหนือ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลมีปริมาณน้ำที่ร้อยละ 108, เขื่อนแม่กวงอุดมธารามีปริมาณน้ำที่ร้อยละ 101 เช่นเดียวกับในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนน้ำอูนมีปริมาณน้ำที่ร้อยละ 110, เขื่อนน้ำพุงมีปริมาณน้ำที่ร้อยละ 103, เขื่อนจุฬาภรณ์มีปริมาณน้ำที่ร้อยละ 103, เขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณน้ำที่ร้อยละ 112, เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำที่ร้อยละ 101

ส่วนที่ภาคกลาง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำที่ร้อยละ 135 และที่ภาคตะวันออก ที่เขื่อนคลองสียัดมีปริมาณเต็มความจุแล้ว ขณะนี้ต้องเร่งระบายน้ำในปริมาณที่เท่ากับน้ำที่ไหลเข้าเขื่อน, ที่เขื่อนหนองปลาไหลมีปริมาณน้ำที่ร้อยละ 103 และที่เขื่อนประแสร์มีปริมาณน้ำที่ร้อยละ 107 ส่วนที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ยังคงเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4,398 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าน้ำเหนือที่ผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) อยู่ที่ 3,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ เนื่องจากน้ำทะเลยังไม่หนุนสูง แต่จะหนุนสูงอีกครั้งช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ ส่วนความกังวลกับปริมาณน้ำคลองรังสิตอาจล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่ดอนเมืองนั้น อยู่ที่การบริหารจัดการของกรมชลประทาน แต่ กทม.ได้ประสานกับเทศบาลตำบลหลัก 6 จังหวัดปทุมธานี ในการรักษาระดับน้ำในคลองเปรมประชากร ไม่ให้เอ่อล้น

ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุอิทธิพล พายุโซนร้อนนาลแก ที่กำลังจะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ จะทำให้เกิดฝนตกหนักในประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อเย็นเมื่อวานนี้ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 8 ตุลาคม ในเขตภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน โดยคาดว่าพายุโซนร้อนลูกนี้จะอ่อนกำลังลงเมื่อขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันที่ 7 ตุลาคม

ประมวลภาพ ทุกข์คนไทย วิกฤตน้ำท่วมกันยา 54

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook