ดัชนีหุ้นสหรัฐ ดิ่งลงปิดต่ำสุดในรอบ 1 ปีกว่า

4 ต.ค. - ราคาหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทของสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวลดลงในวันจันทร์ เพราะความวิตกกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจ วิกฤติหนี้ในยุโรปและข่าวลือว่าสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์จะล้มละลาย

ราคาหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้น 0.2 % ในช่วงแรกของชั่วโมงซื้อขายเพราะได้ข่าวดีจากดัชนีภาคการผลิตในสหรัฐฯ ดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ แต่ในเวลาต่อมาดัชนีดาวโจนส์ปักหัวลงเพราะไม่อาจต้านทานกระแสข่าวด้านลบเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจยุโรป ส่งผลให้เมื่อถึงตอนปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 258.08 จุด หรือ 2.36 % ลงมาปิดที่ 10,655.30 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วเป็นต้นมา ขณะที่ดัชนีสำคัญอื่น ๆ เช่น เอสแอนด์พี 500 ดิ่งลง 32.19 จุดหรือ 2.85 % และดัชนีแนสแดค อ่อนตัวลง 79.57 จุด หรือ 3.29 %

ข่าวที่สร้างความกังวลให้แก่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงคือคำแถลงของกรีซว่าจะไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายลดการขาดดุลในปีนี้และปีหน้า ข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นธนาคารถูกทุบราคาลงมาอย่างหนัก หุ้นแบงค์ออฟอเมริกา ปิดตลาดดิ่งลง 9.6 % หุ้นซิตีกรุ้ป ดิ่งลง 9.8 % หุ้นมอร์แกนสแตนเลย์อ่อนตัวลง 7.6 %

นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กพากันจับตามองสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ ซึ่งเมื่อปิดตลาดมีราคาหุ้นดำดิ่งลงถึง 33.1 % ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า เอเอ็มอาร์ คอร์ป บริษัทแม่ของอเมริกัน แอร์ไลน์ จะยื่นขอคุ้มครองการล้มละลาย นักวิเคราะห์คนหนึ่งบอกว่า แรงเทขายหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ เกิดขึ้นหลังจากมีนักบินขอลาออกมากผิดปกติในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และนักบินพากันเทขายหุ้นที่ตัวเองถืออยู่ด้วยความกลัวว่าบริษัทจะล้มละลาย - สำนักข่าวไทย