กองปราบ-จนท.ราชทัณฑ์ค้นคุกคลองเปรม
เจ้าหน้าที่หน่วยคอมมานโด กองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ประมาณ 300 นาย สนธิกำลัง เข้าตรวจค้น ภายในแดน 5 ของเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งเป็นแดนที่มีนักโทษเด็ดขาด รวม 1,300 คน เพื่อค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งโทรศัพท์มือถือ ยาเสพติด และอาวุธ ตามนโยบายของ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งการตรวจค้นดังกล่าว จะทำพร้อมกันทุกทั่วเรือนจำทั่วทั้งประเทศ ระหว่างวันที่ 4-5 ต.ค. นี้
พันตำรวจเอก นรศักดิ์ เหมนิธิ รองผู้บังคับการกองกำกับการปราบปราม นำกำลังคอมมานโด และกำลังกองกำกับการ 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ สนธิกำลังกว่า 300 นาย ทำการตรวจค้นสิ่งต้องห้ามยาเสพติดตลอดจนสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำกลางคลองเปรม โดย พันตำรวจเอกนรศักดิ์ ระบุว่า การปฏิบัติการตรวจค้นครั้งนี้ กองปรามปราม ได้รับการประสานมาจากกรมราชทัณฑ์ พลตำรวจโท พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงสั่งการและกำชับในการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายในเรือนจำ เน้นในเรื่องของยาเสพติด ซึ่งตรวจค้นในครั้งนี้ จะทำการตรวจค้นในเรือนพักผู้ต้องขังในแดน 5 ที่ต้องโทษในคดีหนักสุดจำคุก 30 ปี ถึงระดับประหารชีวิตซึ่งมีผู้ต้องขังจำนวน 1,300 คน ซึ่งการตรวจค้นพบยาเสพติดและอุปกรณ์การเสพ จำนวนหนึ่ง โทรศัพท์มือถือ มีดและอุปกรณ์ ที่สามารถนำมาเป็นอาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมาย พ.ร.บ.กรมราชทัณฑ์
ด้านนายประเสริฐ อยู่สุภาพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม เปิดเผยถึง วิธีการลักลอบนำของผิดกฎหมายเข้ามาในเรือนจำ มีหลายรูปแบบ อาทิ มากับสิ่งของที่ญาติผู้ต้องขังนำมาเยี่ยม โยนข้ามกำแพง และแอบซ่อนมากับตัวผู้ต้องขัง ในระหว่างที่ไปขึ้นศาล ซึ่งของกลางที่ตรวจยึดได้ จะนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการเรือนจำคลองเปรม ยังกล่าวด้วยว่า กรมราชทัณฑ์จะมีการติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องขัง ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดปัจจุบัน มีกว่า 10 ราย ก็จะทำการโอนย้ายไปเรือนจำกลางเขาบิน และกรมราชทัณฑ์ มีการประสานข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. อีกด้วย
พันตำรวจเอก นรศักดิ์ เหมนิธิ รองผู้บังคับการกองกำกับการปราบปราม นำกำลังคอมมานโด และกำลังกองกำกับการ 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ สนธิกำลังกว่า 300 นาย ทำการตรวจค้นสิ่งต้องห้ามยาเสพติดตลอดจนสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำกลางคลองเปรม โดย พันตำรวจเอกนรศักดิ์ ระบุว่า การปฏิบัติการตรวจค้นครั้งนี้ กองปรามปราม ได้รับการประสานมาจากกรมราชทัณฑ์ พลตำรวจโท พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงสั่งการและกำชับในการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายในเรือนจำ เน้นในเรื่องของยาเสพติด ซึ่งตรวจค้นในครั้งนี้ จะทำการตรวจค้นในเรือนพักผู้ต้องขังในแดน 5 ที่ต้องโทษในคดีหนักสุดจำคุก 30 ปี ถึงระดับประหารชีวิตซึ่งมีผู้ต้องขังจำนวน 1,300 คน ซึ่งการตรวจค้นพบยาเสพติดและอุปกรณ์การเสพ จำนวนหนึ่ง โทรศัพท์มือถือ มีดและอุปกรณ์ ที่สามารถนำมาเป็นอาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมาย พ.ร.บ.กรมราชทัณฑ์
ด้านนายประเสริฐ อยู่สุภาพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม เปิดเผยถึง วิธีการลักลอบนำของผิดกฎหมายเข้ามาในเรือนจำ มีหลายรูปแบบ อาทิ มากับสิ่งของที่ญาติผู้ต้องขังนำมาเยี่ยม โยนข้ามกำแพง และแอบซ่อนมากับตัวผู้ต้องขัง ในระหว่างที่ไปขึ้นศาล ซึ่งของกลางที่ตรวจยึดได้ จะนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการเรือนจำคลองเปรม ยังกล่าวด้วยว่า กรมราชทัณฑ์จะมีการติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องขัง ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดปัจจุบัน มีกว่า 10 ราย ก็จะทำการโอนย้ายไปเรือนจำกลางเขาบิน และกรมราชทัณฑ์ มีการประสานข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. อีกด้วย