น้ำท่วมทางเข้านวนคร-อพยพต่อเนื่อง

เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ชาวบ้านและพนักงานนิคม ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านไทยธานี ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จำนวนหลายร้อยคน ต้องอพยพสิ่งของหนีน้ำกันอย่างโกลาหล หลังจากน้ำได้ไหลทะลักพังพนังกั้นน้ำ ชั้นที่ 2 บริเวณทิศเหนือของนิคมอุตสาหกรรมนวนคร หน้าโรงงานกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมโรงงานและหมู่บ้านไทยธานี ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการ 2 ของนิคมอุตสาหกรรมนวนคร อย่างรวดเร็ว บางจุดมีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร 50 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ ต้องเร่งตัดไฟทั้งหมดในหมู่บ้าน ทำให้ ชาวบ้านและพนักงานหลายร้อยคน ต้องฝ่ากระแสน้ำ ขนข้าวออกมาท่ามกลางความมืด มีเพียงทหารจากกองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ต้องนำรถยีเอ็มซีจำนวนกว่า 10 คันเร่งเข้าไปช่วยประชาชน อพยพสิ่งของออกจากพื้นที่

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา น้ำได้ไหลทะลักพนังกั้นน้ำชั้นนอก ด้านทิศเหนือของนิคมอุตสาหกรรมนวนคร บริเวณหน้าวัดพืชนิมิต จนน้ำได้ไหลเข้าท่วมโรงงานที่อยู่ในโครงการ 1 ของนิคมที่มีอยู่กว่า 100 แห่ง จมน้ำเสียหาย โดยเฉพาะที่บริเวณ บริษัทคูโบต้า ที่มีระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร หลังจากนั้น ทหารและพนักงานของนิคม ได้วางแนวกระสอบทราย ทำเป็นพนังกั้นน้ำชั้นที่ 2 ไว้หน้าบริเวณบริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ ซึ่งตั้งอยู่ในจุดเชื่อมต่อระหว่าง โครง 1 และ 2 แต่เมื่อระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำได้ทะลักแนวกระสอบ เมื่อเวลา 00. 30 นาที จนกระทั่งน้ำได้ไหลเข้าท่วมในโครงการที่ 2 ของนิคมอุตสาหกรรมและหมู่บ้านไทยธานี ซึ่งมีพนักงานนิคม และชาวบ้านอาศัยอยู่กว่า 1 แสนคน


สถานการณ์น้ำท่วมที่ นิคมอุตสาหกรรมนวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในเช้าวันนี้ สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากระดับน้ำ ได้เอ่อล้นและไหลเข้าท่วมบริเวณทางเข้าของนิคมทั้ง 2 ทาง ทั้งที่บริเวณห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซึ่งเป็นทางเข้าไปยังตัวนิคมอุตสาหกรรม เฟส 1 และทางเข้าหมู่บ้านไทยธานี ซึ่งระดับน้ำได้สูงถึง 40 ซ.ม. ส่งผลให้รถเล็กนั้น ไม่สามารถเข้าไปภายในตัวนิคมได้แล้ว โดยประชาชนที่จะเดินทางเข้าออก ต้องอาศัยรถ จีเอ็มซี ของเจ้าหน้าที่ทหาร หรือ รถออฟโรด เท่านั้น ขณะที่ ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังคงมีการอพยพประชาชน ออกนอกพื้นที่ โดยส่วนใหญ่นั้นได้เดินทางกลับภูมิลำเนา และบางคนต้องไปยัง ศูนย์พักพิงชั่วคราว เช่นเดียวกับ นายสุรชัย คำบูรณ์ อายุ 25 ปี พนักงานโรงงาน คำโบอินโด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตท่อทองแดงกล่าวว่า ทางโรงงาน ได้สั่งปิดและอพยพพนักงาน กว่า 1,000 คน ออกนอกพื้นที่ตั้งแต่ วันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ ตนเองนั้นได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากต้องไปอาศัยที่ศูนย์อพยพ และไม่มีรายได้ ขณะที่ ภายในหมู่บ้านไทยธานี ขณะนี้ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 3.40 ม. และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง



ผู้ว่าฯปทุมธานี บินตรวจพื้นที่น้ำท่วม
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย พลโทยอดยุทธ บุญญาธิการ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสภาพน้ำที่ท่วมตั้งแต่ตัวเมืองปทุมธานี ไปยังลาดหลุมแก้ว ผ่านนวนคร ไปยังตำบลหลักหก จนไปถึงธัญบุรี และวนกลับมาสำรวจที่ตำหนักจักรีบงกช เพื่อดูสภาพน้ำและนำมาประเมินสถานการณ์น้ำที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อป้องกันทางเดินของน้ำไม่ให้ไหลเข้าไปยังพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากการบินสำรวจในครั้งนี้ พบว่า ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ได้มีน้ำท่วมสูง และบางตำบลน้ำท่วมสูงมากจนชาวบ้านไม่สามารถอาศัยอยู่ได้

ในการบินสำรวจย่านนวนครพบว่า น้ำได้เข้าท่วมพื้นที่ย่านนวนครทางด้านทิศเหนือ เป็นโรงงานที่ผลิตเครื่องจักรใหญ่ และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งพบความเสียหายประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากว่าได้บล็อกแนวคันกั้นน้ำไว้ได้ในชั้นที่ 3 สำหรับประชาชนในพื้นที่ย่านนวนครส่วนใหญ่ ได้อพยพออกจากพื้นที่ไปแล้วบ้างบางส่วน ซึ่งในภาพถ่ายทางอากาศจะคันดินแตกกว้างกว่า 50 เมตร สาเหตุจากเฮลิคอปเตอร์ชีนุก ทิ้งตู้คอนเทนเนอร์ผิดที่ไปถูกแนวคันดินกั้นน้ำแตก ทำให้น้ำไหลมากขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องช่วยกันสร้างแนวคันดินขึ้นมาใหม่ถึง 3 ชั้น เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลไปยังโครงการอื่นสองและสาม และเจ้าหน้าที่ทหารได้ปิดกั้นน้ำได้


ระดับน้ำประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ใกล้ล้น
สถานการณ์ประตูระบายจุฬาลงกรณ์ ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงถึง 3.84 ม. ซึ่งประตูระบายน้ำแห่งนี้ สามารถรับน้ำได้ 4.24 ม. ซึ่งหมายความว่า ประตูระบายน้ำแห่งนี้จะรับน้ำได้อีกเพียง 40 ซ.ม.เท่านั้น ซึ่งทางเทศบาลนครรังสิต ก็เร่งระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา และยังมีนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประชาชนจำนวนมาก อาสามาช่วยกันทำคันกั้นกระสอบทราย เพื่อใช้เป็นเกราะในการป้องกันน้ำ อีกทางหนึ่งด้วย ขณะเดียวกัน โดยรอบของตลาดรังสิตนั้น ขณะนี้ได้มีน้ำท่วมขัง ถนนรังสิต - ปทุมธานี ปริมาณน้ำบางจุดสูงขึ้นมาบนทางเท้า ขณะที่ ถนนหน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี นั้น น้ำก็ได้เข้าท่วมถนน ทำให้การจราจรเคลื่อนตัวได้ช้า เช่นกัน