ก.ล.ต.ปรับหลักเกณฑ์ยกระดับมาร์เก็ตติ้ง

ก.ล.ต.ปรับหลักเกณฑ์ยกระดับมาร์เก็ตติ้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุน เห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การ ให้ความเห็นชอบบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน ให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของภาคธุรกิจ ซึ่งจะทำให้การให้ความเห็นชอบ และการต่ออายุความเห็นชอบสะดวกยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มจำนวนบุคลากรให้เพียงพอกับความต้องการของภาคธุรกิจในตลาดทุน และสามารถให้บริการกับผู้ลงทุนได้อย่างทั่วถึง

หลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงนี้ จะกำหนดให้ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนผ่านการทดสอบหลักสูตรความรู้พื้นฐาน กฎระเบียบ และความรู้ตราสาร เฉพาะตราสารประเภทที่ตนต้องการเป็นผู้ขาย และเมื่อต้องการยกระดับให้ขายหลักทรัพย์อื่นด้วย ก็สามารถสอบเฉพาะหลักสูตรความรู้ตราสารที่ต้องการขายเพิ่มเติม โดยแบ่งเป็น 4 หลักสูตรย่อย ได้แก่ ตราสารทุน ตราสารหนี้ กองทุน และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พร้อมกันนี้ จะมีการเปลี่ยนชื่อเรียกจากเดิม "ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนประเภท ก" เป็น "นักวิเคราะห์การลงทุน" ส่วน "ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนประเภท ข" เป็น "ผู้แนะนำการลงทุน" โดยหลักเกณฑ์จะเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555

สำหรับผู้ที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนประเภท ก หรือ ประเภท ข ด้านหลักทรัพย์ในปัจจุบัน จะได้เป็น "นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์" หรือ "ผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์" ซึ่งสามารถออกบทวิเคราะห์ หรือแนะนำ แล้วแต่กรณี ได้ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ และกองทุน

นอกจากนี้ ก.ล.ต. กำหนดเพิ่มเติมให้ผู้ทำหน้าที่ชักชวน และแนะนำการลงทุนในหลักทรัพย์ หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแก่ผู้ลงทุนสถาบัน ต้องเป็นผู้แนะนำการลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. เช่นเดียวกับกรณีให้บริการแก่ผู้ลงทุนรายย่อย ในส่วนนี้ หลักเกณฑ์จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook