maiชวนSMEประสบภัยพบแหล่งทุน
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) เปิดเผยว่า วิกฤตอุทกภัยครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้แก่ภาคธุรกิจอย่างมาก โดยมี ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 39 จังหวัด ประมาณ 500,000 ราย คิดเป็น 17% ของ SMEs ทั่วประเทศ ภายหลังวิกฤตน้ำท่วม ยังมีภารกิจใหญ่ ที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การฟื้นฟูกิจการให้สามารถดำรงต่อไปได้ mai จึงร่วมมือกับพันธมิตร จัดงานเสวนา "Alternative Funding แหล่งทุนทางเลือกสู้วิกฤตอุทกภัย" ในวันที่ 30 พ.ย. อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนประเภทธุรกิจเงินร่วมลงทุน และ Private Equity ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกเพื่อใช้ในการฟื้นฟูกิจการ พร้อมทั้งให้ผู้ประกอบการได้รับฟังมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้
นายโสภณ บุณยรัตพันธุ์ นายกสมาคมสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน (TVCA) เปิดเผยว่า Venture Capital และ Private Equity เป็นแหล่งเงินทุนอีกประเภท สำหรับผู้ประกอบการทั้งในเวลาที่ธุรกิจดำเนินได้ตามปกติ และยามวิกฤต โดยในภาวะวิกฤตเช่นนี้ การหาผู้ร่วมทุนนับเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม การลงทุนของ Venture Capital และ Private Equity ไม่ใช่การลงทุนด้วยเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังร่วมให้คำแนะนำผู้ประกอบการในการจัดการธุรกิจ และเป็นตัวเชื่อมให้ผู้ประกอบการได้พบกับลูกค้า หรือคู่ค้าในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งให้เกิดการต่อยอดทางธุรกิจได้อีกด้วย Venture Capital และ Private Equity จึงเปรียบเสมือนหุ้นส่วนทางธุรกิจ ที่ร่วมแบกรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น และช่วยให้กิจการที่เข้าร่วมลงทุนประสบความสำเร็จ