ทัพกีฬาไทย รับอัดฉีดอื้อ รวม 136.27 ลบ.

เบื้องหลังจากการที่นักกีฬาทีมชาติไทยทำผลงานคว้า 109 เหรียญทอง 100 เหรียญเงิน และ 120 เหรียญทองแดง ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย รั้งอันดับ 2 ศึกอิเหนาเกมส์ เป็นรองเพียงเจ้าภาพอินโดนีเซีย ที่ครองเจ้าเหรียญทองด้วย 182 เหรียญทอง 151 เหรียญเงิน 142 เหรียญทองแดง

ซึ่งนักกีฬาทีมชาติไทย จะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ตามหลักเกณฑ์เหรียญทองละ 200,000 บาท เหรียญเงิน 100,000 บาท และเหรียญทองแดง 50,000 บาท จากผลงานดังกล่าวจะทำให้ทัพไทยฟันเงินอัดฉีดรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 136.27 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินรางวัลของนักกีฬา 90.85 ล้านบาท สมาคมกีฬาได้รับ 30 % อีก 27.255 ล้านบาท และผู้ฝึกสอนได้รับ 20 % อีก 18.17 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็นเงินรางวัลรายกีฬาดังนี้ (เฉพาะนักกีฬา) กรีฑา 6.3 ล้านบาท, ว่ายน้ำ 6.25 ล้านบาท, เทควันโด 2 ล้านบาทเรือพาย 10.85 ล้านบาท, ยิมนาสติก 2.4 ล้านบาท, ฟันดาบ 2.3 ล้านบาท, เปตอง 1.05 ล้านบาท, กอล์ฟ 1.5 ล้านบาทจักรยาน 1.3 ล้านบาท, เอ็กซ์ตรีมสปอร์ต (โรลเลอร์สปอร์-สกีน้ำ) 2.15 ล้านบาท, ตะกร้อ 6.8 ล้านบาท, ยิงปืน 1.05 ล้านบาท ปีนหน้าผา 4.5 แสนบาท, ยิงธนู 6.5 แสนบาท, เทเบิลเทนนิส 4 แสนบาท, ซอฟต์เทนนิส 1.4 ล้านบาท, ซอฟต์บอล 1.5 ล้านบาท, แบดมินตัน 2.9 ล้านบาท, โบว์ลิง 6 แสนบาท, เรือใบ-วินด์เซิร์ฟ 1.3 ล้านบาท, คิวสปอร์ต 7.5 แสนบาท, เบสบอล 1.1 ล้านบาท, บาสเกตบอล 3.6 ล้านบาท, เทนนิส 1.9 ล้านบาท, มวยสากลสมัครเล่น 1.6 ล้านบาท, วอลเลย์บอล 5.4 ล้านบาท, ขี่ม้า 1.65 ล้านบาท, ยกน้ำหนัก 2.05 ล้านบาท, คาราเต 4 แสนบาท,บริดจ์ 1.2 ล้านบาท, ยูโด 1.85 ล้านบาท,
พาราไกล์ดิ้ง 3.6 ล้านบาท, วูซู 3.5 แสนบาท, ปันจักสีลัต 5.5 แสนบาท, ฟินสวิมมิ่ง 5.4 ล้านบาท, ฟุตซอล 4.8 ล้านบาท และหมากรุก 2 แสนบาท