ชายฉกรรจ์50คนรื้อคันกั้นตลาดรังสิต400ม.

ดร.เดชา กลิ่นกุสุม รองนายกเทศมนตรีนครรังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทางเทศบาลและประชาชนในตลาดรังสิต พยายามจะกู้ตลาดขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้เปิดการค้าขายได้ เนื่องจาก ตลาดรังสิต เป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด หลังถูกน้ำท่วมมานานนับเดือนแล้ว เบื้องต้น ได้นำเอาคอนกรีต และกระสอบทราย มาทำคันกั้นน้ำ และพยายามจะเร่งสูบออกลงคลองรังสิต แต่ล่าสุด ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 40-50 คน ซึ่งไม่ใช่ชาวบ้านในหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ที่อยู่ตรงข้ามตลาดรังสิต มารื้อแนวกระสอบทรายของตลาดออกไปเป็นระยะทางถึง 400 เมตร โดยอ้างว่า การกู้ตลาดทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของตนเอง แต่ทางเทศบาล ยืนยัน ไม่ได้ส่งผลกระทบประชาชนโดยรอบตลาดเลย เพราะเป็นการสูบน้ำออกลงคลองรังสิต ซึ่งทางตลาดจะไม่ไปต่อต้าน หรือ เผชิญหน้ากับกลุ่มคนดังกล่าวแน่ และได้แจ้งต่อตำรวจ เพื่อดูแลความเรียบร้อยแล้ว ซึ่งส่งผลให้เรื่องการกู้ตลาดรังสิต ต้องล่าช้าออกไปอีก


ทั้งนี้ นายเดชา ยังกล่าวยอมรับว่า ชาวบ้านบางส่วนถูกหลอกให้มารื้อแนวกระสอบทราย เพราะถูกยุจากนักการเมืองท้องถิ่นบางคน ที่อ้างว่าทางเทศบาลนครรังสิต ไม่ยอมทำแนวคันกั้นน้ำให้หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี จนน้ำท่วมสูงกว่า 80 เซนติเมตร ซึ่งจากที่ชาวบ้านเข้ามารื้อแนวกระสอบทราย ส่งผลให้ระดับน้ำในตลาดรังสิต เพิ่มขึ้นทันทีอีก 20 เซนติเมตร โดยน้ำขณะนี้อยู่ที่ระดับกว่า 80 เซนติเมตรแล้ว ซึ่งทางเทศบาลนครรังสิต ตั้งใจว่าจะดำเนินการกู้ตลาดในวันพรุ่งนี้ แต่เมื่อมีการรื้อกระสอบทราย ก็คงต้องปล่อยให้น้ำลดระดับลงไปก่อน จึงจะดำเนินการได้

อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันนี้ รองนายกเทศมนตรีนครรังสิต ได้เชิญตัวแทนจากหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี และตัวแทน
ตลาดรังสิต มาพูดคุยว่า ทางเทศบาลได้ดำเนินการช่วยเหลืออะไรไปบ้างแล้ว



โฆษก ศปภ. แจง กรณีชาวคูคตปะทะผู้ใช้ถนน

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ออกมาชี้แจงถึงปัญหามวลชนของชาวบ้าน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ที่รวมตัวชุมนุมเมื่อวานนี้ เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รื้อแนวคันบิ๊กแบ็กบริเวณแยก คปอ. โดยไปชุมนุมกันบนทางด่วนโทล์เวย์ขาเข้า บริเวณหน้าห้างเซียร์รังสิต จนเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างผู้ใช้เส้นทางกับผู้ชุมนุม และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เกิดบันดาลโทสะทุบกระจกรถยนต์ที่ขับมาเฉี่ยวชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคูคต ได้ดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่าย โดยผู้ขับขี่รถยนต์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดอันตรายทางร่างกาย ถูกเปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 500 บาท พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย และค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บ และเป็นผู้ที่ทุบกระจกรถยนต์ ยอมชดใช้ค่าเสียหายกรณีทุบกระจกรถยนต์คันดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 2,700 บาท โดยทั้ง 2 ฝ่ายยินยอม



"คำรณวิทย์" สั่ง ตร.ปทุมฯ,นนท์ เร่งทำความเข้าใจ ปชช.

จากกรณีมีชาวบ้านในอำเภอคูคต และลำลูกกา ชุมนุมปิดโทลล์เวย์ฝั่งขาเข้า บริเวณหน้าห้างเซียร์ รังสิต ทำให้การจราจรไม่สามารถใช้การได้ชั่วคราว เกิดการไม่พอใจของผู้ใช้รถ ใช้ถนน จนเกิดมีปากเสียงกับกลุ่มผู้ชุมนุม และเกิดเหตุวุ่นวายโดยมีผู้พยายามขับรถฝ่าการชุมนุมออกไป ซึ่งผู้ชุมนุมได้กระโดดขึ้นไปบนรถเก๋ง คันดังกล่าวแล้วทุบกระจกรถนั้น พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 เปิดเผยว่า ทางศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมดูแลไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก

นอกจากนี้ จากกรณีที่ผ่านมามีชาวบ้านทำการรื้อกระสอบทราย และคันกั้นน้ำต่างๆ ลักษณะเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี ทำให้ส่งผลกระทบกับการระบายน้ำ ในภาพรวม ทาง ศปภ. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำความเข้าใจกับมวลชน ไม่ให้มีการรื้อคันกั้นน้ำต่างๆ โดยทาง ศปภ. และทุกฝ่ายจะเร่งแก้ไขปัญหา และระบายน้ำทั้งระบบอย่างเร่งด่วน