ภาคใต้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินหลังน้ำท่วมสูง

26 พ.ย. - สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดทางภาคใต้ ยังวิกฤติ หลายจังหวัดต้องประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน หลังน้ำยังคงท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ชาวประมงหลายร้อยครอบครัว ในชุมชนเก้าเส้ง อำเภอเมืองสงขลา งดออกหาปลาชั่วคราว เพื่อป้องกันเรืออัปปาง หลังคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยมีกำลังแรง และหันไปทำงานรับจ้างแทน ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลาเตือนให้ 16 อำเภอ เฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัย โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทย

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดตรัง ปริมาณน้ำยังท่วมสูงขึ้นในหลายหมู่บ้าน เนื่องจากฝนตกลงมาเป็นระยะ เช่นหมู่ 7 ตำบลนาโยงใต้ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 20 เซนติเมตร ทำให้พื้นที่น้ำท่วมขยายวงกว้างชาวบ้านเดือดร้อนนับร้อยหลังคาเรือน บางจุดระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร จนต้องอพยพไปอาศัยเต็นท์ริมถนนแทน ส่วนพื้นที่การเกษตรตำบลนาโยงใต้และนาบินหลา ถูกน้ำท่วมไปแล้วกว่า 500 ไร่ และคาดว่าน้ำจะล้นพนังกั้นแม่น้ำตรัง เข้าท่วมบ้านเรือนในช่วงเที่ยงวันนี้ ส่วนโรงเรียนวัดโคกพิกุล ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 5 เซนติเมตร อาจต้องปิดการเรียนการสอนไปถึงสัปดาห์หน้า

ด้านจังหวัดนราธิวาสได้ประกาศให้ 8 อำเภอ ประกอบด้วยยี่งอ บาเจาะ ระแงะ สุไหงโกลก แว้ง จะแนะ เจาะไอร้อง และตากใบ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว หลังน้ำยังท่วมสูงอย่างต่อเนื่อง บ้านเรือนและพื้นที่การ เกษตรเสียหายจำนวนมาก โรงเรียนประกาศปิด 22 แห่ง และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน - สำนักข่าวไทย