บุรีรัมย์เข้าใกล้แชมป์บุกไปเฉือนบลูมาร์ลิน 1-0

บุรีรัมย์เข้าใกล้แชมป์บุกไปเฉือนบลูมาร์ลิน 1-0

บุรีรัมย์เข้าใกล้แชมป์บุกไปเฉือนบลูมาร์ลิน 1-0
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ พีอีเอ เข้าใกล้กับตำแหน่งแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกเข้าไปทุกขณะเมื่อบุกไปเฉือนบลูมา ร์ลิน ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี ทีมหนีตายได้ถึงถิ่น 1-0 จากประตูโทนของเจ้าเก่าโออองด์ซ่า น.45 ขออีก 9 แต้มแชมป์ทันที ส่วนศรีราชาอาการหนักโอกาสตกชั้นสูง

ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2554

ศรีราชา ซูซูกิ 0 - 1 เอฟซี บุรีรัมย์ พีอีเอ

การแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011 เลก 2 ประจำวันเสาร์ที่ 10 ธ.ค. 54 “เดอะบลูมาร์ลิน” ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี ทีมท้ายตารางอันดับ 17 ที่ลงสนามไป 27 นัด มีอยู่ 23 คะแนน เจอศึกหนักเมื่อต้องเปิดที่ซูซูกิ สเตเดี้ยม บ้านรับการมาเยือนของว่าที่แชมป์อย่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ พีอีเอ จ่าฝูงที่ลงสนามไปแล้ว 28 นัดมีอยู่ 69 คะแนน โดยในเลกแรกที่ผ่านมาบุรีรัมย์ พีอีเอ เอาชนะมาได้ 1-0

สำหรับในเกมนี้ถือว่ามีความหมายต่อเจ้าถิ่นศรีราชาเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้ เพื่อโอกาสในการหนีตกชั้น แต่ถ้าหากแพ้ก็ถือว่าโอกาสจะได้อยู่รอดในลีกสูงสุดค่อนข้างริบหรี่ ส่วนทีมเยือนบุรีรัมย์ แม้จะนำคู่แข่งอย่างเมืองทองฯ และชลบุรี อยู่สิบกว่าแต้ม แต่เกมนี้ก็ต้องการชัยชนะเพื่อการเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ให้เร็วที่สุด

เปิดฉากมา 10 นาที เกมตกเป็นของทีมเยือนบุรีรัมย์ อย่างสิ้นเชิงแต่ก็ยังหาจังหวะจบสกอร์ที่จะแจ้งไม่ได้ ในขณะที่เจ้าถิ่นศรีราชา ก็อาศัยการตั้งรับและรอสวนกลับ แต่ก็ยังไม่มีจังหวะได้ลุ้นประตูเช่นเดียวกัน น.14 เป็นโอกาสแรกของเจ้าถิ่นเมื่อจัสติน มูส ได้บอลจากกลางสนามก่อนจะเลี้ยงจี้เข้าหาเขตโทษและจ่ายไปทางซ้ายให้ยอดรัก นาเมืองรักษ์ ได้กดเต็มข้อด้วยซ้ายแต่ไปตรงตัวศิวรักษ์ เทศสูงเนิน

น.21 เป็นโอกาสของทีมเยือนบ้างจากการประสานงานกันของอภิเชษฐ์ พุฒตาล ที่ไหลบอลจากกราบขวามาให้สุเชาว์ นุชนุ่ม ได้ตั้งป้อมยิงในเขตโทษแต่บอลนั้นถากเสาออกไป น.26 ฟรองค์ โออองด์ซ่า ได้หลุดเข้าไปยิงมุมแคบแต่ก็ยังไม่ผ่านมือของแดเนียล ลูคัส นายทวารเจ้าถิ่น

น.38 เจ้าถิ่นนั้นพลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อพรศักดิ์ ป้องทอง หลุดกัปดักล้ำหน้าได้ไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตูพยายามยิงเล่นทางแต่ก็ยัง ไปติดเซฟของศิวรักษ์ เทศสูงเนิน อยู่ดี ช่วงท้ายครึ่งแรกศรีราชา ยังคงทำได้ดีกว่าและมาได้ น.43 ยอดรัก นาเมืองรักษ์ แบ็กซ้าย ได้ลองส่องไกลบอลพุ่งแรกแต่ก็เฉี่ยวเสาออกไปแบบได้ลุ้น

แต่แล้วในช่วงนาทีสุดท้าย น. 45 จากจังหวะเหมือนจะไม่มีอะไรเมื่อสุเชาว์ นุชนุ่ม ที่ได้บอลหน้าเขตโทษพยายามจิ้มบอลเข้าไปให้เพื่อนแต่บอลไปติดบล็อกของดั๊กลา ส โคโบ่ กระดอนมาเข้าทางปืนของโออองด์ซ่า วอลเล่ย์แบบไม่จับบอลพุ่งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างง่ายดายให้ทีมเยือนบุกมานำ 1-0 ก่อนจบครึ่งแรก หลังจากนั้นก็ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ในครึ่งหลังทั้งสองทีมเปลี่ยนผู้เล่นกันฝั่งละตำแหน่งเจ้าถิ่นส่งอารอน ดา ซิลวา กองหน้าชาวแซมบ้าลงมาแทนอำไพ มุธาพร ส่วนทีมเยือน “ปราสาทสายฟ้า” ก็ส่งทางด้านอดิศักดิ์ ไกรษร กองหน้าดาวรุ่งลงมาแทนยุทธจักร์ ก้อนจันทร์ และเริ่มเกมมาไม่ถึงนาทีอารอน ดา ซิลวา ก็เกือบแผงฤทธิ์เมื่อได้ลองยิงไกลหน้าเขตโทษแต่บอลไม่ตรงกรอบ

ผ่านไปหนึ่งช่วโมงเต็มเกมของศรีราชา ยังไม่ดีขึ้นทำให้ ดุสิต เฉลิมแสน ผจก.ทีมต้องตัดสินใจเปลี่ยนตัวคนที่ 2 ส่งคริสเตียโน่ โลเปส หัวหอกชาวบราซิลอีกคนลงไปแทนดั๊กลาส โคโบ่ น.64 ทีมเยือนเกือบหนีห่างไปอีก อันแดสัน ดอส ซานโตส ลากบอลลุยเดี่ยวไปถึงเขตโทษก่อนจะจ่ายทะลุช่องให้แฟรงค์ อาชิมปง ได้หลุดเข้าไปยิง บอลนั้นผ่านมือของลูคัส ไปแล้วแต่ดันเหินไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

น.71 อนุวัฒน์ นาคเกษม ได้หลุดเดี่ยวไปยิงในเขตโทษแต่บอลถากเสาออกไป และก็เป็นจังหวะสุดท้ายในเกมของอนุวัฒน์ เมื่อถูกเปลี่ยนตัวออก โดยเจ้าถิ่นส่งเอกชัย ฤทธิพันธิ์ ลงไปแทน เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของการแข่งขันทีมเยือนเปลี่ยนเอาคลาเรนซ์ บิทัง จูเนียร์ ลงไปแทนอาชิมปง ที่วันนี้โชว์ฟอร์มไม่ออก

ช่วงท้ายเจ้าถิ่นพยายามบุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างหนักแต่ก็ได้แค่หวาดเสียว เท่านั้น จบเกมเป็นทางฝั่งบุรีรัมย์ พีอีเอ ที่บุกมาเฉือนชนะศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี ไปได้ 1-0

จากชัยชนะนัดนี้ของ “ปราสาทสายฟ้า” ทำให้พวกเขามีคะแนนเพิ่มเป็น 72 คะแนน ทิ้งห่างเมืองทองฯ และชลบุรี อยู่สิบกว่าแต้ม ซึ่งบุรีรัมย์ เหลือโปรแกรมอีก 5 นัดสุดท้าย ถ้าชนะรวดได้อีก 3 นัดติดต่อกัน หรือเก็บเพิ่มอีกอย่างน้อย 7 แต้มก็จะคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ทันที ในขณะที่ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี ที่แพ้ในเกมนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะต้องกลับไปบ้านเก่าในดิวิชั่น 1 ฤดูกาลหน้า

สำหรับรายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี :
แดเนียล ลูคัส (GK),ยอดรัก นาเมืองรักษ์,วุฒิศักดิ์ มณีสุข,อำไพ มุธาพร (อารอน ดา ซิลวา น.46),พรศักดิ์ ป้องทอง,สุจริต จันทกล (C),เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์,จัสติน มูส,ดั๊กลาส โคโบ่ (คริสเตียโน่ โลเปส น.61),ดิเอโก้ โรเบิร์ต และ อนุวัฒน์ นาคเกษม (เอกชัย ฤทธิพันธิ์ น.73)

บุรีรัมย์ พีอีเอ : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK),เยเวส เฮอร์มาน,จักรพันธ์ แก้วพรม,รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค,สุเชาว์ นุชนุ่ม,อภิเชษฐ์ พุฒตาล (C),ฟรองค์ โออองด์ซ่า,โจเซฟ โอบาม่า,อันแดสัน ดอส ซานโตส,แฟรงค์ อาชิมปง (คลาเรนซ์ บิทัง จูเนียร์ น.79) และ ยุทรจักร์ ก้อนจันทร์ (อดิศักดิ์ ไกรษร น.46)

ขอนแก่น เอฟซี 2 - เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 2

ศึกสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก ที่สนามอบจ.ขอนแก่น "เดอะ ทีเร็กซ์" ขอนแก่น เอฟซี ลงเล่นเป็นเจ้าบ้านพบ "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด ผลงานล่าสุดของเจ้าบ้าน แข่งไป 29นัด มี 22 คะแนน อยู่อันดับสุดท้ายของตาราง ส่วนเมืองทอง ยูไนเต็ด แข่ง 26 นัด มี 55 คะแนน อยู่อันดับ 2

เกมนี้เจ้าถิ่นขาด หลี่ เซียง เซ็นเตอร์ตัวหลักชาวจีนที่ติดโทษแบน แต่นักเตะตัวจริงคนอื่นๆ เช่น  ศุภกร ฆารดา จัตตุพล สิทธิเลาะ คำแพง สายวุฒิ ยังลงสนามช่วยทีมได้เช่นเดิม ส่วนเมืองทอง นัดนี้ใช้ ธีรศิลป์ แดงดา จับคู่กับ อานนท์ สังสระน้อย ในแดนหน้า พร้อมเปิดโอกาสให้ วรนาถ ทองเครือ ดาวรุ่งลงมาสัมผัสเกมด้วย ส่วนร็อบบี้ ฟาวเลอร์ มีรายชื่ออยู่ที่ม้านั่งสำรองเท่านั้น

ทีมเยือนครองเกมได้ดีกว่าในช่วงแรก และมีจังหวะลุ้นประตูก่อน ในน.6 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว วางบอลยาวจากกลางให้ วรนาถ ทองเครือ หลุดไปเส้นถึงหลังก่อนหยอดมากลางประตู และเป็น ปิยพล บรรเทา ที่วิ่งมาโขกโล่งๆแบบไร้ตัวประกบ แต่ทิศทางยังไม่ดี เลยโด่งข้ามคานออกไป

แต่แล้วเมืองทองก็ได้ประตูออกนำจนได้ ในน.8 จากจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา ได้บอลหน้าเขตโทษ แล้วดึงจังหวะรอให้ อานนท์ สังสระน้อย วิ่งเติมขึ้นมา ก่อนจะดีดให้อานนท์ หลุดไปแปผ่านมือ ปิยวัฒน์ อินทรพิมพ์ เข้าไปง่ายๆ ทำให้เมืองทองบุกมานำ ขอนแก่นไปก่อน 1-0

น .21 เจ้าถิ่นพลาดประตูตีเสมอ จากลูกฟรีคิกริมเส้นด้านขวา สุรชาติ สิงห์โหง่น เปิดโค้งไปหน้าประตู นักเตะเมืองทองพยายามสกัดทิ้งแต่ไม่ขาด บอลลอยโด่งอยู่แถวจุดโทษ กฤษดา เหมวิพัฒน์ โชว์ลีลายิงจักรยานอากาศ แต่บอลเด้งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวคนแรก ในน.28 โดยถอด คำแพง สายวุฒิ ที่มีอาการบาดเจ็บออก แล้วส่ง กัลยา สายสมหวัง ลงเล่นแทน

หลังจากนั้นทั้งสองทีมพยายามเปิดเกมเข้าใส่กันอย่างสนุก โดยเมืองทองครองเกมได้มากกว่า ส่วนขอนแก่นอาศัยจังหวะโต้กลับซึ่งสร้างความปั่นปวนให้แนวรับเมืองทองหลาย หลัง แต่ยังทำประตูกันไม่ได้  น.35 ธีรศิลป์ แดงดา ได้บอลริมเส้นด้านขวา ก่อนเปิดย้อนมาหน้าเขตโทษ ให้พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ตั้งเท้าแปเน้นๆ แต่บอลพุ่งเฉียดเสาออกไปแบบหวุดหวิด

ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายเจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง สุรชาติ สิงห์โหง่น เติมเกมรุกขึ้นมาทางขวา ก่อนโยนให้ อามาดู ทิจจานี่ ขึ้นโหม่งแฉลบ  ภานุพงษ์ วงศ์ษา ออกหลังไปได้เป็นลูกเตะมุม แต่จังหวะเตะมุมของขอนแก่นก็ทำอะไรแนวรับทีมเยือนไม่ได้ ผู้ตัดสินจึงเป่านกหวีดหมดเวลาครึ่งแรก ขอนแก่น เอฟซี ตามหลัง เมืองทอง ยูไนเต็ด 0-1

เกมครึ่งหลัง เจ้าบ้านเริ่มต้นได้ดี และมีโอกาสลุ้นก่อนจากลูกเตะมุม ศุภกร ฆารดา โยนด้วยซ้ายมาเสาสอง โชค สุขแก้ว วิ่งมายิงด้วยขวาบอลพุ่งเข้ามือนายทวารทีมเยือน น.55 เมืองทองเปลี่ยนตัวคนแรก โดยส่ง ดาโญ่ เซียก้า ลงมาแทน ปิยพล บรรเทา

น.57 ดัสกร ทองเหลา เปิดเตะมุมให้ ภานุพงษ์ วงศ์ษา กระโดดโหม่งลงพื้น บอลเด้งข้ามขาดไปแบบได้ลุ้น  น.70 สุรชาติ สิงห์โหง่น ได้ซัดด้วยขวาเต็มข้อในเขตโทษ แต่ยังไม่ดีพอจะผ่านมือ วีระ เกิดพุดซา เข้าไปกองสู่ก้นตาข่ายได้

แต่แล้ว น.73 เจ้าถิ่นมาพลาดเสียประตูที่ 2 จนได้ จากจังหวะสวนกลับของทีมเยือน ดาโญ่ เซียก้า วางบอลข้ามแนวรับเจ้าถิ่นที่เติมเกมรุกขึ้นมาค่อนข้างสูง ให้ธีรศิลป์ แดงดา หลุดไปจิ้มด้วยขวาสวนตัวนายทวารเข้าไป ช่วยให้เมืองทองออกนำ2-0

เจ้าถิ่นครองเกมบุกอยู่นาน จนกระทั้งน.90 ก็มาพังประตูตีไข่แตกจนได้ จากจังหวะหลุดเดี่ยวของ ศราวุธ วิเชียร ก่อนไหลเข้ากลางให้ ศักดิ์สิทธิ์ ยืนชีวิต วิ่งมายิงด้วยขวาเข้าไป ช่วยให้เจ้าบ้านไล่มา 1-2 มีโอกาสลุ้นในช่วงเวลาที่เหลือ

แต่เเล้วก็มีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้น ในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย เมื่อขอนแก่นเจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 จากการเปิดยาวทางกราบขวามาหน้าประตู แนวรับเมืองทองช่วยกันสกัดอย่างเต็มที่ แต่โชคร้ายที่บอลไม่ไปไหนไกล เลยโดน กฤษดา เหมวิพัฒน์ กลับตัวยิงด้วยขวาบอลลอยตุงตาข่าย ทำเอากองเชียร์เจ้าถิ่นบางรายถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ และรักษาสกอร์นี้ได้จนจบการแข่งขัน ทำให้ทั้งสองทีมเสมอกันไปอย่างสนุก 2-2 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน

ผลการแข่งขันเช่นนี้ทำให้ขอนแก่น เอฟซี มีคะแนนเพิ่มเป็น 23 คะแนน จาก 30 นัด ยังจมอยู่อันดับสุดท้ายเช่นเดิม ส่วนเมืองทอง ยูไนเต็ด มี 56 คะแนน จาก 27 นัด อยู่อันดับ 2 แต่มีโอกาสสูงที่จะเสียตำแหน่งรองจ่าฝูงให้ชลบุรี เอฟซี ถ้านักเตะ "ฉลามชล" เอาชนะ พัทยา ยูไนเต็ดได้ ในวันพรุ่งนี้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ขอนแก่น เอฟซี :
ปิยวัฒน์ อินทรพิมพ์(GK), วุฒิชัย พันธ์มุข, ศุภกร ฆารดา, สุรชาติ สิงห์โหง่น, จัตตุพล สิทธิเลาะ, โชค สุขแก้ว ,ผดุงศักดิ์ กิตติวราพล, เริ่มรัตน์ งามเจริญ(C)(ศักดิ์สิทธิ์ ยืนชีวิต), กฤษดา เหมวิพัฒน์, คำแพง สายวุฒิ(กัลยา สายสมหวัง),อามาดู ทิจจานี่(ศราวุธ วิเชียร)

เมืองทอง ยูไนเต็ด : วีระ เกิดพุดซา(GK), นนทพันธ์ เจียสถาวงศ์, ภานุพงษ์ วงศ์ษา, เซส เรห์มาน, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์(C), พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ปิยพล บรรเทา(ดาโญ่ เซียก้า), วรนาถ ทองเครือ(จักรพันธ์ พรใส), ธีรศิลป์ แดงดา ,อานนท์ สังสระน้อย(นฤพล อารมณ์สวะ)

สรุปผลไทยพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2554
- เอสซีจี สมุทรสงคราม แพ้  ทีทีเอ็ม พิจิตร 2-3

- ทีโอที เอสซี เสมอ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี 0-0

- ขอนแก่น เอฟซี เสมอ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 2-2

- ศรีราชา เอฟซี แพ้ บุรีรัมย์ พีอีเอ 0-1

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook