ลูกชายเหยื่อพิทบูลคลั่งกัดตาย บินรับศพแม่
เผยสุนัขอาจอยู่ในช่วงติดสัด หรือสับสนเปลี่ยนคนดูแลใหม่ ขณะที่มีคนอ้างเป็นหลานโพสต์แฉ "ไข่ตุ๋น"เคยกัดคนมาแล้ว 2 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (15 ธ.ค.) ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ นายศรันย์ สวนไพรินทร์ อายุ 46 ปี ลูกชายของ นางสมสกุล สวนไพรินทร์ อายุ 71 ปี ผู้เสียชีวิตจากการถูกกัดจาก “ไข่ตุ๋น” สุนัขพันธุ์พิทบูล เพศผู้ อายุ 2 ปี ได้เดินทางกลับมาจากอเมริกาหลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตของมารดา พร้อมได้เดินทางมาทำเอกสารหลักฐาน เพื่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน ในวันที่ 18 ธ.ค. นี้
นายศรันย์ กล่าวว่า ครอบครัวของตนเองเป็นครอบครัวที่รักสุนัขมาก และยังเก็บสุนัขมาเลี้ยงไว้ด้วย ซึ่งตอนนี้เลี้ยงไว้ในบ้านทั้งหมด 17 ตัว โดยเจ้าพิทบูลตัวนี้ได้เลี้ยงมาตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ ซึ่งแม่บ้านคนเก่าได้ดูแลมันมาตลอด แต่แม่บ้านได้ลาออกไป แล้วมีแม่บ้านคนใหม่เข้ามาดูแลแทน ซึ่งเป็นคนแก่อายุ 60 กว่าปีแล้ว ได้เข้ามาทำงานที่บ้าน 3-4 วัน อาจทำให้เจ้าพิทบูลตัวนี้เกิดความสับสนเป็นได้
"ตอนช่วงที่เกิดภาวะน้ำท่วมได้มีชาวบ้านเข้ามาอาศัยอยู่ภายในบ้านเป็นจำนวนมาก อาจทำให้เจ้าพิทบูลเกิดอาการหวงพื้นที่อาณาเขตได้ หรืออาจเกิดในช่วงนี้ที่อยู่ในช่วงฤดูติดสัดก็เป็นไปได้ ปกติคุณแม่จะปล่อยเจ้าพิทบูล เดินเล่นเข้าออกบ้านเป็นประจำ โดยจะนั่งดูโทรทัศน์กับคุณแม่ตลอด แต่ไม่รู้เพราะอะไรทำให้มันถึงทำได้ขนาดนี้" นายศรันย์ กล่าว
นายศรันย์ กล่าวอีกว่า การเสียชีวิตของคุณแม่นั้น ทางแพทย์ได้บอกว่าเกิดจากการเสียเลือดมาก ทั้งที่จริงเจ้าหน้าที่เข้าไปทำอะไรอยู่ตั้งนาน ไม่รีบนำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลก่อน
ในขณะที่เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีผู้อ้างว่าเป็นหลานของผู้เสียชีวิตใช้ชื่อว่า tinnn เข้ามาโพสต์ข้อความที่เว็บไซต์พิตบูลโซน ดอตคอม (pitbullzone.com) ถึงสาเหตุที่ย่าถูกสุนัขพิตบูลกัดว่า สุนัขตัวดังกล่าวคุณอา (ลูกชายคุณย่า) เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ปกติแล้วหมาตัวนี้มีนิสัยดุร้ายกับทุกคน ยกเว้นคุณอาและคนดูแลบ้านอีกคน (ที่ลาออกไปแล้ว) โดยในซอยที่คุณย่าอาศัยอยู่ มีแต่คนบอกว่าไม่น่าเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เลย และคนที่รู้จักหลายๆ คน ก็ไม่เห็นด้วยที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์ดังกล่าว เพราะคนเลี้ยงไม่สนใจ เลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ แต่คุณอาก็ไม่สนใจคำท้วงติง โดยคุณอาเพิ่งเดินทางกลับไปนอกเมื่อไม่กี่วันนี้เอง
"ในเวลาไล่ๆ กัน หมาตัวนี้ก็กัดคนไปแล้ว 2 คน คนหนึ่งเป็นเพื่อนคุณย่า โดนกัดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนอีกคนเป็นญาติกัน โดนกัดที่ข้อศอกจนเลือดสาด และมาวันนี้ก็ถึงคราวของคุณย่าผม ซึ่งบทเรียนคราวนี้มันเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับคุณอา แล้วก็อยากให้บทเรียนคราวนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่คิดจะเลี้ยงหมาที่มีนิสัยดุร้าย ให้ความระมัดระวังและเอา ใจใส่ให้มากกว่านี้"