นาซาชี้วันสิ้นโลก2012 เป็นเรื่องเหลวไหล
(1 ม.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ ดอน ยีโอมานส์ ผู้จัดการโครงการวัตถุใกล้โลก ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ซึ่งให้ความเห็นผ่านสเปซด็อทคอมว่า วันสิ้นโลกในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 ที่หลายคนหวั่นกลัวว่าโลกจะถูกดาวนิบิรุ พุ่งชนถือเป็นเรื่องเหลวไหล เพราะไม่มีอยู่จริง เป็นเรื่องที่กุขึ้นโดยจินตนาการของนักวิทยาศาสตร์เทียม ขาดหลักฐานสนับสนุนอย่างสิ้นเชิง
"หากดาวดังกล่าวจะพุ่งชนโลกในวันที่ 21 ธ.ค.จริง เราคงจะเห็นดาวดวงนี้ด้วยตาเปล่าแล้ว ส่วนเรื่องดวงอาทิตย์จะตัดเข้าไปอยู่ด้านหน้าระนาบของกาแลกซี หากมองจากมุมของโลกแล้วดวงอาทิตย์ก็เคลื่อนตัดระนาบกาแลกซีเป็นประจำปีละ 2 ครั้งอยู่แล้ว ดวงอาทิตย์อยู่ห่างระนาบกาแลกซี 67 ปีแสง หากปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ" ยีโอมานส์ กล่าว
นับจากวันนี้ถึงวันที่ 21 ธ.ค. 2012 ไม่มีการเรียงตัวของดาวเคราะห์อย่างแน่นอน แต่ถึงจะมีจริงก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร เพราะวัตถุที่มีผลกระทบตอโลกในด้านแรงโน้มถ่วงนั้นมีเพียงดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์เท่านั้น ซึ่งเห็นได้จากปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง ส่วนแรงโน้มถ่วงจากดาวเคราะห์ดวงอื่นในระบบสุริยะนั้นมีผลต่อโลกน้อยมาก และโลกก็รับมือกับแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์เพื่อนบ้านมาหลายล้านปีแล้ว
ยีโอมานส์ ยังได้กล่าวถึงกรณีการเกิดพายุสุริยะที่ส่งอนุภาคมีประจุมายังโลกว่า จะทำให้เกิดแสงเหนือแสงใต้หรือออโรรา (aurora) และสร้างความเสียหายต่อดาวเทียมและสายส่งไฟฟ้าได้ แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายถาวร แม้ว่าจะมี "มหาพายุสุริยะ" ซึ่งเคยปะทะโลกเมื่อปี 1859 แต่ก็ได้สร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่อาจจะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลในโลกปัจจุบันที่พึ่งพิงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่าในอดีต แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มี่หลักฐานว่า จะเกิดพายุสุริยะรุนแรงเช่นนั้นอีกในวันที่ 21 ธ.ค.