กสทช. เล็งเอาผิดค่ายมือถือ กรณีสัญญาณล่มซ้ำซาก
กสทช.หวั่นเป็นเสือกระดาษ เตรียมหาช่องเอาผิดกำหนดบทลงโืทษค่ายมือถือ กรณีสัญญาณโทรศัพท์ขัดข้องซ้ำซาก
(10 ม.ค.) พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า จากการหารือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในเบื้องต้นทุกรายยอมรับว่าประสิทธิภาพสัญญาณโทรศัพท์มือถือด้อยคุณภาพลง เพราะในช่วงที่ผ่านมาไม่มีการลงทุนปรับปรุงโครงข่ายโทรคมนาคม เนื่องจากมุ่งเน้นที่จะเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือ 3 จี บนคลื่นความถี่ 2.1 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมแผนแม่บทคลื่นความถี่ โดยมีเป้าหมายว่าภายในไตรมาส 3 ปี 2555 จะเปิดประมูล 3 จีได้
อย่างไรก็ตาม สัญญาณโทรศัพท์มือถือขัดข้องนั้น ถือเป็นปัญหาสำคัญที่ กสทช. จะต้องเร่งแก้ปัญหา โดยภายในไตรมาสแรกปี 2555 ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกรายจะต้องปรับปรุงโครงข่ายโทรคมนาคมให้มีประสิทธิภาพ เพราะ กสทช. จะทดสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถืออย่างเข้มข้น และหากไม่เป็นไปตามมาตรฐานการให้บริการจะมีบทลงโทษเริ่มตั้งแต่การแจ้งตักเตือน การปรับ และขั้นร้ายแรงคือการเพิกถอนใบอนุญาต นอกจากนี้ กสทช. ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการร่างใบอนุญาตให้นำเข้าอุปกรณ์ FEMTO CELL หรืออุปกรณ์สถานีฐานขนาดเล็ก เพื่อสำหรับการเพิ่มช่องสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
"กสทช. ไม่ต้องการถูกเรียกว่าเป็นเสือกระดาษ ดังนั้น ก็ต้องเร่งหาช่องทางตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสัญญาณโทรศัพท์ขัดข้องซ้ำซาก เพราะผู้บริโภคเดือดร้อน" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงาน กสทช. อยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขประกาศมาตรฐานคุณภาพการให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ให้รัดกุมสามารถที่จะลงโทษผู้รับใบอนุญาตโทรศัพท์มือถือที่ไม่ปรับปรุงประสิทธิภาพคุณภาพการให้บริการได้ เพราะปัจจุบัน ทำได้เพียงการแจ้งหนังสืออย่างเป็นทางการให้ปรับปรุงและรายงานให้ กสทช. รับทราบเท่านั้น แต่ไม่มีบทลงโทษที่ชัดเจน และภายในสัปดาห์นี้จะทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกราย
ส่วนกรณีที่เกิดปัญหาสัญญาณขัดข้องซ้ำซาก เช่น ปัญหาของ ดีแทค ที่เกิดขึ้น 3 ครั้ง แต่ไม่มีบทลงโทษที่ชัดเจน จึงได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณารายละเอียดของ พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ว่าสามารถที่ลงโทษทางกฎหมายดีแทคได้หรือไม่ อีกทั้งดีแทค ยังแจ้งข้อมูลไม่ตรงกันด้วย เช่น เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา โดยดีแทค แจ้งว่าชุมสายโทรศัพท์มือถือที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขัดข้อง แต่ กสทช.ไปตรวจสอบพื้นที่แล้วพร้อมกับเจ้าหน้าที่ดีแทคในพื้นที่ พบว่าอุปกรณ์ชุมสายที่จังหวัดสุราษฎร์ ปกติ และการแก้ไขปัญหาระบบส่วนกลางเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้น กสทช. จะทำหนังสือแจ้งดีแทค เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้รับทราบว่าข้อมูลที่แจ้งให้ กสทช. นั้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งต้องรอคำชี้แจงจากดีแทค อีกครั้ง .-สำนักข่าวไทย