Gold Future - บล.เอเซีย พลัส
Gold Futures: ราคาทองคำตลาดสหรัฐเมื่อคืน ปรับขึ้นต่อเนื่อง 10.11 เหรียญฯ ปิดอยู่ที่ 1,640.99 เหรียญฯ หลังมีรายงานจีนนำเข้าทองคำจากฮ่องกงเดือน พ.ย. 2554 สูงสุดเป็นประวัติการณ์จำนวน 102,779 กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 20% mom และ 483% yoy ขณะเดียวกันอินเดียซึ่งเป็นผู้ซื้อทองคำแท่งรายใหญ่สุดของโลก ได้นำเข้าทองคำเป็นจำนวนมาก หลังสกุลเงินรูปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ด้าน Dollar Index วานนี้ ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 81.27 จากสกุลเงินยูโรร่วงลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจยุโรป หลังฟิทซ์ เรทติงส์ ส่งสัญญาณเตือนสกุลเงินยูโรอาจถึงคราวล่มสลาย หากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ไม่เดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรของประเทศในกลุ่มยูโรโซน ประเด็นต้องติดตามในสัปดาห์ คือ การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของอีซีบีในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาด อีซีบีอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป ด้านสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ยอดค้าปลีก, สต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค กลยุทธ์ : ราคา GFG12 เมื่อคืน ปรับเพิ่มขึ้น 200 บาท ปิดอยู่ที่ 24,950 บาท เทียบเท่าราคาทองคำ ณ วันปัจจุบันที่ 1,646.93 เหรียญฯ สูงกว่าราคาทองคำ Spot ที่ล่าสุดปรับตัวอยู่บริเวณ 1,644 เหรียญฯ คาดว่า GFG12 วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 24,900-25,200 บาท โดยมุมมองเชิงบวกที่ยังมีต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่น่าสนใจลงทุน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับแนวโน้มความต้องการทองคำในจีนที่เพิ่มขึ้นก่อนเทศกาลตรุษจีน ฝ่ายวิจัยจึงคงแนะนำให้นักลงทุนที่ได้เปิดสถานะ Long GFG12 (ด้วยน้ำหนักเพิ่มอีก 25% ของพอร์ตลงทุน) ตามที่ฝ่ายวิจัยแนะนำเมื่อวานนี้ ระดับต้นทุน 24,750 บาท คงสถานะไว้ และปิดสถานะทำกำไร หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณ 25,000 บาท หรือ เทียบเท่า 1,650 เหรียญฯ (สร้างกำไร 250 บาท/สัญญา) อย่างไรก็ตามความผันผวนของราคาทองคำที่มีสูงขึ้น นักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของทองคำอย่างใกล้ชิด และกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง โดย บมจ.หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ประจำวันที่ 12 มกราคม 2555
