กานต์ อดีตเมียเสกโชว์หลักฐานเป็นผู้จัดการทรัพย์สิน
กลายเป็นหนังคนละม้วน หลังอดีตภรรยา กานต์ วิภากร โพสต์ข้อความว่านักร้องหนุ่ม เสก โลโซ หนีออกจากสถาบันธัญญารักษ์กลับบ้านเพราะคิดถึงลูก เมีย และห่วงทรัพย์สิน งานนี้ทำเอาครอบครัว เสก โลโซ นั่งไม่ติดรีบออกโรงแถลงตอบโต้ยืนยัน เสก ยังคงรักษาตัวอยู่ในรพ. พร้อมเผยแพร่คลิป เสก กำลังทำกิจกรรมขณะอยู่ในสถาบำบัดเพื่อคอนเฟิร์มว่าเจ้าตัวไม่ได้หนีไปไหนทั้งสิ้น ก่อนโชว์หนังสือมอบอำนาจที่พี่ชายให้น้องสาว หงษ์ ทยุตา เป็นคนเข้ามาดูแลทรัพย์สินแทน วอน กานต์ วิภากร หยุดโพสต์ข้อความต่างๆ ได้แล้ว ถ้ายังไม่หยุดขู่ฟ้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (12 ม.ค.) กานต์ วิภากร เปิดบ้านย่านวัชรพล แถลงชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่าเสกกลับมาบ้านวันที่ 6 ม.ค. เพราะว่าห่วงเอกสาร สมุดบัญชีธนาคาร ทรัพย์สินทั้งหมดรวมมูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งทนายความอ้างว่าเสกเซ็นต์หนังสือมอบอำนาจให้ทนาย น้อง ครอบครัว ดูแลจัดการ แต่นักร้องหนุ่มได้บอกกับตนว่าไม่รู้เรื่องว่าเซ็นตอนและให้ตนร่างหนังสือยกเลิกการมอบอำนาจอันเก่าที่เขียนเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 54 และเอาไปเก็บที่ห้องแต่ปรากฏว่าน้องสาวของเสกได้แอบเข้ามาเอาไป ซึ่งเสกพยายามถามว่าเงินหายไป 2.9 ล้าน แต่ทางทนายกับครอบครัวก็ไม่ให้ดู ทั้งหมดนี้ตนยืนยันว่าพูดความจริง และไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะฟ้อง ที่ออกมาในวันนี้ไม่ได้ต้องการอะไร แต่อยากให้ทุกคนรับรู้ความจริงและอยากช่วยนักร้องหนุ่มโดยปกป้องทรัพย์สิน ส่วนเรื่องสินสมรส คงรอให้เสกหายค่อยมาคุยกันว่าจะเอายังไง โดยส่วนตัวเชื่อว่าเสกจะจัดการให้ตามที่เคยตกลงอยู่แล้ว!!
งานนี้ อดีตภรรยา กานต์ วิภากร ของนักร้องหนุ่ม ก็ได้เปิดใจว่า
"วันนี้ที่จะพูดคงเป็นเรื่องที่เสกกลับมาที่บ้าน เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 55 แต่อยากจะบอกว่าพี่เสกไม่ได้หนีออกจากโรงพยาบาล แต่เขามีปัญหาบางอย่างที่เขาต้องกลับมาเคลียร์ เพราะเค้าคิดถึงน้องเสือ น้องกวาง และลอนดอน ซึ่งเป็นลูกของเค้า และเค้าก็อยากเคลียร์ปัญหาการเงินของเค้า ซึ่งเป็นปัญหาหลักในการบำบัดของพี่เสก เพราะเค้ายังกังวลเรื่องทรัพย์สินของเค้า ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ใคร คือก่อนหน้านี้พี่เสกเขาจะกลับเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 55 เค้าโทรมาหากานต์ 2-3 วันติดกัน โดยให้หมอโทรมาแจ้งให้โทรกลับไปที่ตึก ซึ่งเค้าได้โทรมาปรึกษาเรื่องเงิน เรื่องหนังสือบันทึกที่เค้ามอบอำนาจให้ทนายและน้องของเค้าดูแลทั้งหมด และจะทำยังไงกับหนังสือฉบับนั้น แล้วเงินของเค้าทั้งหมดจะอยู่ที่ใคร"
"และเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่พี่เสกกลับมา เค้าก็ได้โทรเรียกทางญาติเค้าให้เอากระเป๋ามาคืนเค้า ซึ่งทางญาติเค้าก็นำเอากระเป๋ามาคืน ซึ่งกระเป๋าใบที่เขาขอคืนมาจะอยู่ในห้องนอนของเค้า ทางแม่บ้านที่ดูแลจะเป็นคนล็อคห้องเอาไว้ เพื่อไม่ให้ใครเข้า แต่ว่าน้องสาวเค้า แอบเก็บกุญแจห้องนอนพี่ไว้ดอกนึง แล้วเข้าไปค้นเอากระเป๋าของพี่เสกกลับไปอีกเหมือนเดิม ตั้งแต่วันนั้นกานต์ก็ยังไม่เจอพี่เสกเลย เพราะว่าทางเขาไม่ให้เข้าเยี่ยม"
ทั้งนี้ คุณกานต์ ก็ชี้แจงกรณีที่ หงส์ น้องสาวของนักร้องหนุ่ม กล่าวหาว่าไม่ทำมาหากินอะไรเลยมาว่า "ไม่ทราบว่าเรื่องนี้ เขาเอาสมองส่วนไหนคิด เพราะเราอยู่กับเสกมาสิบกว่าปี ก็ช่วยเสกทำงานทุกอย่าง ยกเว้นขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ใครๆ เขาก็ทราบดี แล้วก็ช่วยกันเก็บเงินจนถึงทุกวันนี้ พอวันที่ 6 หลังจากที่เสกกลับโรงพยาบาลไปแล้ว กานต์ก็ได้โทรไปหาทนาย คือคุณอุดมบอกว่า กานต์ขอตรวจสอบทรัพย์สินของเสกว่าทำไมเสก ถึงได้กังวัลเกี่ยวกับเรื่องนี้นัก เพราะตั้งแต่เค้าไปบำบัดตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 54 เขาก็เอากระเป๋าไปตั้งแต่วันนั้นเลย ก็ไม่มีใครได้ตรวจสอบ ก็เคยโทรไปทวงเขาเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ว่าในสิทธิ์ของคนเป็นแม่ขอแค่ดู แต่เขาก็ไม่ยอม วันที่ 6 ม.ค. ก็โทรไปอีก เขาก็บอกกับเราว่า ให้ไม่ได้ น้องกานต์อยากทำอะไร ก็ทำไปเถอะ เขาบอกอย่างนี้ ฉันเองก็ไม่ได้ทำอะไร"
ส่วนกรณีที่อดีตภรรยาของเสก โลโซ ได้โพสต์ข้อความออกมา เจ้าตัวก็ได้กล่าวว่า "คือปัญหาที่คุณหมอบอกเองว่าปัญหาที่แท้จริงของการรักษาคือการที่เขากังวลเรื่องทรัพย์สิน แล้วอยากให้ทางญาติเขาทราบด้วยว่าลูกทั้ง 3 คนนี้เป็นคนในครอบครัวเขาหรือเปล่า อยากให้เขาคิดตรึกตรองให้ดีว่านี่ใช่ครอบครัวเขาไหม หรือว่าเฉพาะคนชื่อ อ้อม "
"อีกอย่างหนึ่ง พี่เสกได้ทำจดหมายยกเลิกการมอบอำนาจ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 54 พี่เสกได้เรียกกานต์ให้เข้าไปหา เพราะพี่เสกกังวลในสัญญาฉบับนี้ แต่พี่บอกว่าสัญญาฉบับนี้ฉีกไม่ได้เพราะมันเป็นแค่ก๊อปปี้ เขาก็ถามเราว่า อย่างงั้นเขาจะทำยังไง เขาก็เลยให้เราร่างจดหมายขึ้นมาใหม่ เป็นจดหมายยกเลิกหนังสือเล่มนี้โดยที่เขาจะเป็นคนที่จะดูแลทรัพย์สินแต่เพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวกับใคร"
"ตอนที่พี่เข้าไปเมื่อวันที่ 5 พี่เสกเค้ายังอารมณ์ดี คือไม่ว่าจะเขียนฉบับนี้หรือฉบับนี้ เขาก็ยังมีฤทธิ์ของยาอยู่ ฉบับนี้คือฤทธิ์ของยาไอซ์ แน่นอน แต่ฉบับนี้อาจจะเป็นฤทธิ์ของยาที่หมอให้ แต่วันนั้น เขาอารมณ์ดีค่ะ พี่ไปตั้งแต่น่าจะประมาณ 5 โมงถึง 2 ทุ่มครึ่งก็กลับมา พี่ก็ไม่ได้มีเจตนาอะไร เพราะของทุกอย่างมันคือของพี่เสกทั้งหมด"
"ส่วนในเรื่องที่จะฟ้องเรื่องสินสมรส คือกานต์ต้องรอให้พี่เสกหายก่อน ซึ่งตัวกานต์เองกับพี่เสกก็คุยและเคลียร์กันด้วยดี พี่ไม่มีทางไปฟ้องเค้าได้หรอก เพราะพี่รู้ว่าเค้าต้องเคลียร์ให้พี่ตามสัญญาหย่าอยู่แล้ว และทรัพย์สินทั้งอย่างลูกทั้งสามคนก็มีสิทธิ์ จะมาบอก 2 คนนี้จะมี สิทธิ์ในทรัพย์สินของพี่เสกได้ยังไง ลายมือในหนังสือฉบับล่าสุดเป็นลายมือของพี่ แล้วเขาก็เป็นคนเซ็น เขาบอกพี่ว่าให้ช่วยทำยังไงก็ได้ ให้อันนี้เป็นโมฆะ"
"เมื่อวันนั้นที่พี่เสกมา เพราะเค้าเคลียร์เรื่องกระเป๋าสะพายที่เก็บบุ๊คแบงค์ บัตรเครดิตร บัตรเอ ที เอ็ม ตราประทับ สมุดเช็คทุกอย่าง แล้วกุญแจรถปอเช่ของเค้า ซึ่งพี่เสกเค้าจะห่วงกระเป๋าสะพาย และจะติดตัวของเค้าอยู่เสมอ ต้องบอกว่าจริงแล้วพี่เสกไม่ได้ถึงขั้นเบลอถึงขนาดไม่ยอมไม่เอาบัญชีไปให้เค้าดู เค้าเรียกเค้าขอดูทำไมไม่เอาไปให้เค้าดู ทั้งๆที่ในใจของเสก เค้าครุ่นคิดแต่ว่า เงินเค้าอยู่ที่ไหนเค้าคิดถึงลูก เค้าคิดถึงว่าเงินเค้าอยู่ที่ไหน"
"ซึ่งตอนที่พี่เสกเซ็นต์สัญญามอบอำนาจให้น้องสาวกับทนาย เป็นคนดูแล เค้าบอกกับพี่ว่าจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเซ็นต์ตอนไหน และตอนที่เค้าเซ็นต์สัญญาฉบับนั้น เค้าดูแค่วันที่ 27 ธ.ค. วันเดียว และพี่เสกก็ถามพี่ว่า อย่างนี้เค้าจะเอาทรัพย์สินไปได้ทั้งหมดเลยไหม พี่ก็บอกว่าใช่ เค้าบอกว่าให้พี่ทำอย่างไรก็ได้ที่จะยกเลิกสัญญาฉบับเก่าได้ เพื่อประโยชน์ของตัวพี่เสกตัวเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่เลย"
คุณกานต์ ยังโชว์หลักฐาน ยืนยันว่า หนุ่มเสก ได้กลับมาที่บ้านของตัวเองจริงอีกด้วย "คือเค้าโทรมาให้พี่ไปรับเค้าที่โรงพยาบาล แต่พี่ก็ได้โทรไปบอกหมอว่าพี่เสกพูดแบบนี้น่ะ แต่เช้าวันที่ 6 ม.ค. ไม่รู้ว่าพี่เสกเค้าคิดยังไง ถึงออกจากโรงพยาบาลมาได้ เห็นเค้าว่าขี่จักรยานมาถึงหน้าโรงพยาบาลแล้วก็เรียกแท็กซี่ ซึ่ง น้องเสือ น้องกวาง รู้ว่าพ่อเข้ามา เพราะเค้าคิดถึงลูกของเค้า และทางป้อมยามก็รู้ เพราะได้มีการบันทึกการเข้า-ออก รถที่มาส่งพี่เสก ได้ลงเวลา 7.30 น. แล้วก็ตามมาด้วยรถของหงส์ ฑยุตา ศุขพิมาย ตอนเวลา 8.20 น. ตามมาด้วยรถพี่แสน ลงเวลา 8.47 น. แล้วเขาก็นำกระเป๋าสะพายมาคืนพี่เสก เพราะพี่เสกเค้าร้องขอ จนพี่เสกต้องนำไปเก็บไว้ที่ห้องนอน แล้วคุณหมอก็ได้นำตัวพี่เสกกลับไป"
นอกจากนี้ น้องเสือ ลูกคนโตของเสก ก็เผยว่า "ผมไม่ได้เจอครับ มีแค่ได้ยินเสียง คุณพ่อก็เล่นเปียโนร้องเพลง ที่ไม่ได้วิ่งออกมาดูคุณพ่อ เป็นเพราะวันนั้นคนเยอะ เลยไม่อยากเข้าไปยุ่งอะไร แต่ก็เป็นห่วงคุณพ่อ"
ทางอดีตภรรยายังกล่าวต่ออีกด้วยว่า "ที่พี่นำเอกสารมาให้ดู เพื่อยืนยันว่าพี่เสกไม่ได้เป็นบ้า ไม่ได้ตาย ที่จะมามอบสินทรัพย์ให้ทุกคนดูแล โดยส่วนตัวแล้วพี่เสกจะเป็นคนที่รอบคอบในเรื่องการสัญญามาก ซึ่งมันไม่ใช่นิสัยของพี่เสก ทั้งนี้ก่อนที่พี่เสกจะเข้ารับการบำบัด พี่เสกเป็นคนบอกว่ามันมียอดที่เขาเบิกเงินออกไป 2 ล้านบาท แล้วก็ 7 แสนบาท แล้วก็ 2 แสนบาท ซึ่งเขาไม่รู้ว่ายอดเหล่านี้เอาไปจ่ายค่าอะไร เขาก็เลยอยากจะทราบ พี่ก็ไม่รู้จะเคลียร์ให้ได้ยังไงเพราะสมุดบุ้คแบงค์ ก็ไม่ได้อยู่กับพี่ ตั้งแต่ที่หย่ากับเขาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปีที่แล้ว (ทั้งนั้นถ้าน้องสาวขู่ฟ้องอีก?) ก็ให้เขาฟ้องไปค่ะ พี่ก็สู้คดีไป เพราะว่าพี่ไม่ได้พูดอะไรผิดหรือเสียหายหรือว่าไม่จริง (เรื่องขโมยของเราคิดว่าใคร?) ตอนนั้นมันมีคนหลายคนที่เข้ามาพี่ก็ไม่รู้ว่าใครหยิบไป เรื่องเงิน 7 แสน 2 ล้านอะไรนั้นพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เสกเขาคิดไปเองหรือเปล่า พี่ก็เลยต้องขอเชกไปที่ทนาย ซึ่งต่อมาเขาก็ไม่ให้เราดู ซึ่งเราไม่ต้องการเอากระเป๋าหรือสมุดบัญชีเขามาเก็บ เพียงแค่ขอเชกจะเอามาดูเฉยๆ เพื่อจะได้อธิบายให้พี่เสกเค้าฟังเท่านั่นเองค่ะ"