ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหา สุพจน์ ร่ำรวยผิดปกติ

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงผลการสอบสวนข้อกล่าวหา นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ รวมถึงร่ำรวยผิดปกติ ว่า หลังจากที่คณะอนุกรรมการไต่สวนเรื่องดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้ นายสุพจน์ ชี้แจงเรื่องบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเพิ่มเติม นายสุพจน์ ได้ส่งตัวแทนมายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมกับชี้แจงว่า ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2554 ก่อนถูกปล้น มีเงินสด 5 ล้านบาท เก็บไว้ในบ้าน พร้อมสินสอดอีกจำนวนหนึ่ง ที่อ้างว่าบุตรสาวได้ฝากไว้เพื่อนำเข้าธนาคาร และปฏิเสธไม่มีเงิน 18 ล้านบาท ตามที่ถูกกล่าวหาจากผู้ต้องหาที่เข้าปล้นบ้านพัก

กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.ได้สอบสวนเพิ่มเติมและพบว่า นายสุพจน์ ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินก่อนถูกปล้น จำนวน 36 บัญชี และหลังถูกปล้น ยื่นอีก 3 บัญชี พบประเด็นที่น่าสนใจคือมีรายการทรัพย์สินและหนี้สินบางรายการ มีราคาสูงกว่ารายได้ที่แสดงในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ดังนั้นอนุกรรมการไต่สวนฯ จึงมีมติให้สอบสวน พร้อมทั้งกล่าวหา นายสุพจน์ ว่า ร่ำรวยผิดปกติ และให้ นายสุพจน์ มาแก้ข้อกล่าวหาในวันที่ 23 มกราคม 2555 เวลา 14.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. หาก นายสุพจน์ ไม่มา ป.ป.ช.จะส่งหนังสือไปตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ และดำเนินการตามข้อกล่าวหาต่อ นายสุพจน์ ต่อไป

นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการทุจริตนั้น อนุกรรมการไต่สวนฯ ได้สอบสวนเพิ่มเติมพบว่าสายรัดธนบัตรมีบริษัทเอกชนเข้าไปเกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมกับกระทรวงคมนาคม จำนวน 4 บริษัท ซึ่งอนุกรรมการไต่สวนฯ กำลังไต่สวนในเชิงลึกว่าเกี่ยวข้องกับ นายสุพจน์ หรือไม่ หรือมีเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตอย่างใด นอกจากนี้ ในการพิจารณาเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ 36 บัญชีของ นายสุพจน์ นั้น ป.ป.ช.จะพิจารณาเพิ่มเติมว่าจงใจยื่นบัญชีเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงหรือไม่ และเงินที่ได้มานั้น ได้มาจากที่ไหน ได้มาโดยชอบหรือไม่ ซึ่ง ป.ป.ช.จะสอบสวนเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าวต่อไป