คลังปัดข้อเสนอธปท.รีดค่าธรรมเนียมแบงก์รัฐ

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยต่อกรณี ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอให้สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อนำไปใช้หนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน เหมือนกับธนาคารพาณิชย์ว่า ธนาคารของรัฐ ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายสถาบัน สคฝ. ไม่สามารถเก็บเงินจากฐานเงินฝากได้ ทั้งนี้ เบื้องต้นกระทรวงการคลังได้ประเมินว่า การเรียกเก็บเงินจากสถาบันการเงินที่ได้รับการคุ้มครองเงินฝากเพิ่มจาก 0.4 % ที่เก็บอยู่เดิม ไม่น่าจะกระทบกับต้นทุนของธนาคารพาณิชย์ จนเสียเปรียบในการแข่งขันกับสถาบันการเงินของรัฐ เพราะที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ได้รับการลดอัตราภาษีนิติบุคคลจาก 30 % เป็น 23 % มีผลปีนี้ และปีหน้าเหลือ 20 % นอกจากนี้ การคุ้มครองเงินฝากที่จะมีผลบังคับเหลือ 1 ล้านบาท ในเดือน ส.ค. 2555 ไม่กระทบกับเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ ให้ไหลออกไปฝากไว้ที่สถาบันการเงินของรัฐมากอย่างที่หลายฝ่ายกังวล          นายอารีพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ขณะนี้กระทรวงการคลัง และ ธปท. กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาให้การเรียกเก็บเงินจากสถาบันการเงิน ไม่ให้กระทบกับฐานะการดำเนินงาน เพราะไม่ต้องการให้ผลักภาระไปให้ประชาชนโดยปัจจุบัน สถาบัน สคฝ. เรียกเก็บเงินจากสถาบันการเงินปีละ 0.4 % ของฐานเงินฝาก ได้เงินปีละ 2.6 หมื่นล้านบาท ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า จะต้องมีการเรียกเก็บเงินจากสถาบันการเงินเต็ม 1 % เพื่อให้เพียงพอกับการใช้ดอกเบี้ยกองทุนฟื้นฟูปีละ 6.5 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีนโยบายไม่ให้สถาบันการเงินปล่อยกู้รายใหญ่ที่เป็นลูกค้าใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้สถาบันการเงินของรัฐไปแข่งระดมเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์มาปล่อยกู้